ยายถูกลูกหลานทอดทิ้ง หลังเก็บชายข้างถนนมาเลี้ยง จากนั้นไม่นานเขาก็หายตัวไป

0

ยายถูกลูกหลานทอดทิ้ง หลังเก็บชายข้างถนนมาเลี้ยง จากนั้นไม่นานเขาก็หายตัวไป

วันนี้จะมาแบ่งปันเรื่องราวของคุณยายชราคนหนึ่ง โดยเรื่องราวของคุณยายมีอยู่ว่า

มียายคนหนึ่งกำลังนั่งตาเหม่อลอยอยู่ที่หน้าบ้าน เขามักจะทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำทุกวัน ไม่มีใครรู้เลยว่าในใจของเธอนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ เธอหลังค่อม เดินก็ไม่ค่อยจะไหว มีรอยย่นมากมายตามใบหน้า

สีหน้าของเธอนั้นดูเศร้า คล้ายกับว่ากำลังรอคอยใครบางคนกลับบ้าน หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถอดลมหายใจและก็พูดว่า “เสี่ยวหยาง” เป็นน้ำเสียงที่กำลังรอคอยใครบางคนอยู่

ในปีต่อมาที่ใต้ต้นไม้นี้ คุณยายมองเห็นเด็กผู้ชายรูปร่างผอมคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่ คนคนนี้สวมเสื้อผ้าขัดขาด ไม่ใส่รองเท้า ใบหน้านั้นเปื้อนไปด้วยโคลนดำ เธอได้ถามกับเขาว่า

นั่งทำไมตรงนี้ พ่อแม่หนูอยู่ไหน ?

เด็กชายคนนั้นได้ตอบว่า ผมไม่มีพ่อแม่ครับ

เมื่อเธอได้ยินดังนั้นจึงไม่ได้ถามต่อและพาเด็กชายนั้นกลับไปที่บ้านของเธอ

บ้านของเธอนั้นเก่าและทรุดโทรมมากในตอนนี้ ลูกชายของเธอนั้นมักจะมาเยี่ยมอยู่ที่นี่เป็นประจำ เมื่อลูกชายกลับมาได้เห็นว่ามีเด็กแปลกหน้าอยู่ด้วย จึงเอ่ยปากถามไปว่าเขาคือใคร

ยายก็เลยตอบไปว่า เด็กคนนี้มันน่าสงสารก็เลยพามาบ้านด้วย

ทันใดนั้นลูกชายเธอก็แสดงสีหน้าตกใจทันที ส่วนเด็กก็ได้แต่หลบอยู่ข้างหลังเธอ

เธอพูดว่า อย่าทำหน้าแบบนี้สิ เขายังเด็กอยู่เลยนะ

ลูกชายเธอจึงพูดกับมาว่า แม่ก็แก่แล้วนะ ยังดูแลตัวเองไม่ไหวเลย จะพาเด็กมาเลี้ยงทำไมอีก

แม่ก็เลยตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไรหรอก ฉันเลี้ยงเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน

ก่อนที่ลูกชายจะเดินออกจากบ้านพร้อมกับพูดกับเธอว่า

ถ้าอย่างนั้นมีปัญหาอะไรก็อย่ามาบอกแล้วกัน เพราะผมไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น

คำพูดของลูกชายทำให้เธอรู้สึกเสียใจ แต่ดูเหมือนว่าเด็กชายจะเข้าใจ เด็กน้อยจับมือเธอไว้ แต่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากนั้นเธอจึงยิ้มให้เด็กชาย เธอดูแลเด็กชายดีเหมือนเป็นลูกของตัวเอง และตั้งชื่อเด็กว่า “เสี่ยวหยาง” เธอมักจะเล่านิทานให้เด็กชายฟังก่อนเข้านอนเสมอ หลังจากที่เธออายุมากขึ้น ทำให้ทำงานไม่ไหวอีกต่อไป อีกทั้งลูกชายก็ไม่ได้ส่งเงินมาให้ ทำให้เธอต้องทานข้าวกับเกลือแทน

เดิมทีลูกชายจะเอาข้าวสารมาให้เป็นประจำ แต่หลังจากที่เธอรับเด็กชายคนนี้มาเลี้ยง ลูกชายเธอก็ไม่ส่งข้าวสารให้อีก ทำให้เธอรู้สึกกังวล เพราะข้าวสารที่มีเหลืออยู่ใกล้จะหมดแล้ว เธอกลัวว่าเด็กชายจะล้มป่วย จึงไปขออาหารที่บ้านลูกชาย

แต่ลูกชายของเธอกลับบอกว่า ตอนนี้ที่บ้านก็มีไม่พอเหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นหนี้คนอื่นอีกเป็นจำนวนมาก เธอจึงเดินกลับไป เด็กน้อยพยายามปลอบใจเธอว่าอย่าร้องไห้ จากนั้นเธอก็กอดเด็กชายเอาไว้

วันถัดมาเด็กชายหายตัวไปจากบ้าน เธอตามหาทั่วทั้งหมู่บ้านก็ไม่พบ จนเธอคิดในใจว่า เมื่อวานเด็กน้อยน่าจะได้ยินที่ลูกชายบอกกับเธอว่า “ไม่มีเงินพอเลี้ยงถึงสองคน” ถึงได้หนีไป เธอร้องไห้ และได้แต่ตะโกนเรียกชื่อเด็กชาย หลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอก็ได้แต่นั่งเหม่อที่นั่นทั้งวัน และรอคอยให้เด็กชายกลับบ้าน

จนมาวันหนึ่ง มีรถคันใหญ่สีดำขับเข้ามาในหมู่บ้าน เมื่อคุณยายรู้ว่าเด็กชายกลับมาจึงรีบเดินออกไปหา ขณะนี้เด็กชายอายุ 18 ปีแล้ว เมื่อเขาเห็นคุณยายกำลังใช้ไม้เท้าเดินอย่างลำบาก ก็รีบเข้าไปหาทันที คุณยายพูดว่า “เสี่ยวหยาง แกหายไปไหนมา รู้ไหมว่าฉันคิดถึงแก” เด็กชายพยักหน้าและน้ำตาซึม พร้อมพูดขอโทษเธอ ทำให้คนในหมู่บ้านต่างรู้สึกซาบซึ้งไปตาม ๆ กัน

คุณยายบอกเด็กชายว่า ที่ผ่านมาเธอตามหาเด็กชายอย่างยากลำบาก เมื่อลูกชายของคุณยายรู้ว่าเด็กชายกลับมา อีกทั้งสวมใส่เสื้อผ้าอย่างดี และขับรถราคาแพง เขาจึงเอ่ยปากชวนให้ไปทานข้าวที่บ้าน แต่เด็กชายตอบปฏิเสธไป เขาเดินตามคุณยายกลับไปที่บ้านของเธอ พร้อมบอกว่าจะสร้างบ้านหลังใหม่ให้คุณยาย และรับปากว่าต่อไปนี้ยายจะไม่ต้องใช้ชีวิตลำบากอีกต่อไป หลังจากนั้นเด็กชายคนนั้นได้สร้างโรงเรียนเล็ก ๆ ขึ้นที่นี่ เพื่อให้เด็กในพื้นที่ชนบทยากจน ได้มีโอกาสเล่าเรียนหนังสือ

ไม่มีใครในหมู่บ้านรู้เลยว่า ที่ผ่านมาเด็กชายหายตัวไปไหนมา เจออะไรมาบ้าง แล้วเพราะอะไรถึงได้มีเงินมากมายขนาดนั้น แต่ที่รู้คือเด็กชายมีความกตัญญู และสำนึกรักในบ้านเกิด เป็นเรื่องที่น่ายกย่องและชื่นชมมากค่ะ

เรียบเรียงโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : liekr

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here