ลงทุนเพียงแค่ 2 บาท ช่วยลดค่าไฟในบ้านได้เกือบครึ่ง

0

ลงทุนเพียงแค่ 2 บาท ช่วยลดค่าไฟในบ้านได้เกือบครึ่ง

เชื่อได้ว่าคงจะเป็นปัญหาหนักใจของหลายๆบ้าน ที่ค่าไฟมักจะขึ้นสูงตลอดทุกเดือน สาเหตุเป็นเพราะอะไร ทั้งๆที่เราก็ใช้ไฟเท่าเดิม แต่ทำไมค่าไฟกับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

บ้านทุกบ้านจะต้องมีตู้เย็นที่มักมีการเสียบปลั๊กไว้ตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้วแต่หลายๆคนเคยสังเกตไหม ว่าค่าไฟที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งนั้นมาจากตู้เย็นในบ้านเรานี่แหละ เชื่อว่าหลายๆคนจะยังคงไม่รู้กันแน่นอน ว่าความจริงแล้วค่าไฟที่เพิ่มมากขึ้นเกิดจากตู้เย็นที่มักมีการ “รั่วซึม”

วิธีในการตรวจสอบง่ายมากแค่ทำตามขั้นตอนนี้

ให้เราเตรียมกระดาษ A4 มา 1 แผ่นเพื่อเป็นอุปกรณ์ในการทำการทดสอบในครั้งนี้ โดยทำการเปิดตู้เย็นเอาไว้จากนั้นเสียบกระดาษ A4 ที่เราเตรียมไว้เข้าไปครึ่งนึงของแผ่นกระดาษ จากนั้นให้ปิดประตูตู้เย็นรอสักครู่

ดึงกระดาษออกมา หากยางขอบประตูตู้เย็นยังดีอยู่ก็จะดึงกระดาษออกมาได้ยาก เพราะขอบยางจะติดอยู่ที่กระดาษแน่น แต่ถ้าคุณดึงกระดาษออกมาอย่างง่ายดาย นั่นแสดงว่าขอบยางที่ประตูตู้เย็นของคุณนั้น เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว เป็นสัญญาณที่จะต้องเปลี่ยนขอบยางตู้เย็น

วิธีการแก้ปัญหาขอบยางตู้เย็นเสื่อมสภาพ

วิธีที่ 1 คุณทำโดยการตั้งขาตู้เย็นให้ด้านหน้าสูงกว่าด้านหลังจะได้ลักษณะที่ตู้เย็นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ประตูตู้เย็นก็จะปิดลงมาตามแรงดึงดูดของโลกฝาประตูตู้เย็นของคุณก็จะดันลงทำให้ปิดได้แน่นขึ้น ซึ่งในวิธีนี้จะเป็นการช่วยทำให้ประตูตู้เย็นของคุณปิดสนิทได้มากขึ้น หากเรารู้ว่ายางของเราเสื่อมสภาพและมีการรั่วอย่างแน่นอน ในที่นี้จะสามารถช่วยคุณได้หากคุณยังไม่ได้เปลี่ยนยางขอบตู้เย็น

วิธีที่ 2 ให้คุณถอดยางขอบเปลื่ยนออกและนำมาล้างทำความสะอาด แช่ด้วยน้ำอุ่นทิ้งไว้ให้ยางขอบนั้นมีการขยายตัว แล้วนำกลับไปใส่ที่เดิม วิธีนี้จะสามารถช่วยทำให้คุณปิดจุดรั้วได้สนิทยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียเงินแพงๆในการซื้อขอบตู้เย็นมาเปลี่ยนใหม่

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับวิธีและเทคนิคที่เรานำมาฝากเพื่อนๆกันในวันนี้เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนคุณก็สามารถประหยัดค่าไฟได้อย่างมหาศาลลองนำไปใช้กันดูได้เลยค่ะ

10 เทคนิคในการประหยัดไฟ

1. ลดการใช้แอร์

บ้านไหนที่มีแอร์ ควรเปิดแอร์ในเวลาที่จำเป็น เช่น ในวันเวลาที่เรามีความรู้สึกว่าอากาศร้อนมากๆ ควรเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะโดยเปิดที่ 25 องศาก็พอ และอย่าลืมปิดประตูหน้าต่างให้สนิทเรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้เยอะขึ้น

2. เว้นระยะห่างการใช้งานเครื่องดูดฝุ่น

หากบ้านคุณไม่ได้มีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง โดยปกติฝุ่นก็ไม่ค่อยเยอะมากมายเท่าไหร่ สามารถเว้นระยะห่างในการใช้เครื่องดูดฝุ่นเป็นดูดฝุ่นประมาณ 2-3 ครั้งต่อเดือนก็ได้

3. ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน

เพียงคุณปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งานทุกครั้ง วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ชอบเปิดโหมดพักหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้เอา เพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็สูญเสียกระแสไฟไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้วนะจ๊ะ และในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานออกทุกครั้งด้วยจะดีที่สุด

4. เลือกใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์

หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์มีราคาแพงกว่าหลอดไฟชนิดอื่นก็จริง แต่หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์สามารถช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟชนิดอื่นถึง 75% เลยทีเดียว แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีความทนทานมากพอสมควรเลยด้วยนะ อย่างนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า ควรต้องเลือกใช้ไฟแบบไหนถึงจะประหยัดไฟ และคุ้มค่าเม็ดเงินมากกว่า

5. ซักรีดเสื้อผ้าในคราวเดียว

เครื่องซักผ้า และเตารีด เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟมาก ดังนั้น คุณควรจะซักรีดเสื้อผ้าในคราวมากๆ ทีละครั้งเดียวหรืออย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณประหยัดไฟได้มากโข

6. ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ให้น้อยลง

พวกเครื่องปั่น เตาอบไมโครเวฟ หรือกระทะไฟฟ้า จัดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ฟุ่มเฟือยฉะนั้นหากเป็นไปได้คุณควรลดความถี่ในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ดู

7. จัดการตู้เย็นให้สะอาดและเป็นระเบียบ

ใครที่ชอบสะสมของกินไว้ในตู้เย็นวันละนิดวันละหน่อย แต่สุดท้ายก็ลืมทิ้งไว้ให้เน่าเสียคาตู้เย็น รู้ไหมคะว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขในบิลค่าไฟพุ่งสูง ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังทำให้ตู้เย็นของคุณสกปรก เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย ส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกายได้ง่าย ๆ อีกด้วยนะ

8. เมินที่โกนหนวดไฟฟ้า และแปรงไฟฟ้า

ลำพังแค่แปรงสีฟันธรรมดา และมีดโกนหนวดแบบปกติก็สามารถทำความสะอาดช่องปากและใบหน้าของคุณได้หมดจดมาก พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์อย่างที่โกนหนวดไฟฟ้า

9. ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้งาน

หลายคนมักชอบเปิดไฟไว้ทั่วบ้าน เพราะต้องการที่จะให้บ้านดูสว่างและปลอดภัย แต่สิ้นเดือนทีไรค่าไฟก็สูงขึ้นทุกเดือน ฉะนั้นคุณควรปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้งานจะดีกว่า เพื่อเป็นการประหยัดไฟและช่วยลดโลกร้อนได้ดีอีกด้วย

10. ลงทุนติดตั้งเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว

สัญญาณจับการเคลื่อนไหวๆ เพื่อเป็นตัวเปิดเซ็นเซอร์ เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเวลาที่มีคนเดินเข้ามา เครื่องไฟฟ้าจะเปิดขึ้นให้โดยอัตโนมัติ วิธีนี้เราขอแนะนำ เพราะว่าจะสามารถช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกเยอะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : postsod , kapook

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here