ดูไว้เลยจะได้ไม่ผิด โดนน้ำมันลวกใส่ ให้ใช้ของ 12 สิ่งรักษาได้
คนที่ชอบทำอาหารเป็นประจำ หรือบรรดามือใหม่หัดเข้าครัวทั้งหลาย ยอมเคยประสบเหตุการณ์น้ำมันกระเด็นใส่แน่นอน บางคนจะทำอาหารประเภททอด แต่วัตถุดิบที่ถืออยู่นั้นเปียกซก เมื่อโยนลงไปในน้ำมันร้อนๆ ย่อมเกิดสงครามหย่อมๆ บนเตาแก๊ส เดือนร้อนมาถึงร่างกายของคุณ จนได้แผลผุพองมาดูเล่น หลายคนยังเชื่อว่ายาสีฟันสามารถช่วยรักษาอาการอักเสบเหล่านั้นได้ แต่ไม่จริงเลย เรามาดูวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้องและได้ผลกันดีกว่า
12 วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อรักษาอาการอักเสบจาก “นํ้ามันลวกแขน” ด้วยของใช้ใกล้ตัว
ล้างกับน้ำเย็น
รีบล้างที่โดนน้ำมันลวกด้วยน้ำเย็น (ที่ไม่ใส่น้ำแข็ง) ภายใน 5 นาทีหรือเร็วกว่านั้นได้ยิ่งดี น้ำเย็นจะช่วยลดอุณหภูมิที่ผิว และช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังพุพองได้
แช่แผลกับนมสดเย็น
ในน้ำนมมีไขมันและโปรตีนสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการคืนความชุ่มชื้นให้ผิว จึงสามารถช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนได้ในระดับหนึ่ง โดยการจุ่มบริเวณที่ถูกน้ำมันลวกลงในน้ำนมสดเย็นนานประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าจะรู้สึกว่าอาการแสบร้อนทุเลาลงแล้ว
โยเกิร์ตช่วยได้
เป็นอีกหนึ่งไอเท็มสารพัดประโยชน์ นอกจากคนจะนิยมเอามาพอกหน้าให้สวยใสแล้ว ยังนำมาพอกเพื่อลดอาการแสบร้อนจากการโดนน้ำมันลวกได้ เนื่องจากมีคุณประโยชน์และคุณค่าคล้ายกันกับน้ำนม วิธีการคือ ล้างแผลให้สะอาดแล้ว โบกโยเกิร์ตรสธรรมชาติลงบนบริเวณที่พุพอง หรือถ้าเป็นโยเกิร์ตที่แช่เย็นด้วยก็จะยิ่งได้ผลดี
ประคบด้วยแตงกวา
น้ำในแตงกวา วิตามินซี และวิตามินเคช่วยลดอาการอักเสบ อีกทั้งในแตงกวายังมีกรดแพนโทเทนิก (pantothenic acid) ตัวช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ช่วยลดอาการแสบร้อนได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดอาการตึงบริเวณที่ถูกลวกอีกด้วย เมื่อล้างแผลสะอาดแล้วให้หั่นแตงกวาเป็นแว่นๆ นำมาโปะให้ทั่วบริเวณ
พอกว่านหางจระเข้
เป็นสมุนไพรไทยยอดฮิตที่ควรมีติดบ้านและเป็นที่นิยมใช้ เพราะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิว และรักษาแผลที่เกิดจากน้ำมันลวก น้ำร้อนลวก แผลพุพองจากไฟไหม้ เมื่อล้างแผลน้ำมันลวกด้วยน้ำเย็นจนสะอาดแล้ว นำวุ้นสดจากใบว่านหางจระเข้ไปล้าง ก่อนนำมาพอกแผลที่ถูกน้ำมันลวก ประคบแผลในช่วง 2 วันแรก อาการแสบร้อนเพราะน้ำมันลวกจะบรรเทาลงแผลจะสมานเร็วขึ้น ที่สำคัญยังช่วยรักษาริ้วรอยแผลเป็นอีกด้วย บางคนอาจจะใช้ว่านหางจระเข้สดๆ ไม่ได้ จะใช้เจลว่านหางจระเข้แทนก็ได้เช่นกัน
เช็ดแผลด้วยน้ำส้มสายชู
หลังจากล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ให้ใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูให้ชุ่มแล้วนำมาเช็ดล้างทำความสะอาดแผลอีกครั้ง เพื่อลดโอกาสภาวะแผลไม่สะอาดได้ น้ำส้มสายชูมีความเย็นในตัว และมีกรดอะซิติกซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของแอสไพริน จึงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนจากแผล
ลดอาการแสบร้อนด้วยถุงชาดำ
กินแล้วอย่าทิ้ง เก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อได้ เพียงนำถุงชาไปแช่น้ำเย็นไว้สักพัก จากนั้นนำถุงชามาวางโปะลงไปบนแผลที่ถูกน้ำมันลวกจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบให้ทุเลาลง เนื่องจากในชาดำมีสารแทนนินซึ่งสามารถช่วยลดความร้อนจากแผลไฟไหม้ น้ำมันหรือน้ำร้อนลวกได้
เปลือกกล้วยช่วยสมานแผล
ก่อนจะนำมาแปะแผลต้องล้างทำความสะอาดเปลือกกล้วยให้ดี อย่าให้เหลือยาง มิเช่นนั้น คุณอาจจะได้แผลจากยางกล้วยเพิ่ม วิธีการคือ ถูเปลือกล้วยไปรอบๆ บริเวณแผลหรือจะแปะทับแผลไปเลยก็ได้ เปลือกกล้วนนั้นอุดมไปด้วยเอนไซม์ และมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ รวมไปถึงแร่ธาตุนานาชนิด
นวดน้ำผึ้ง+ผงขมิ้นชัน
น้ำผึ้งและขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยต้านอาการอักเสบ และยังช่วยสมานแผลอักเสบได้ ให้ผสมน้ำผึ้งและขมิ้นชันชนิดผงในสัดส่วนเท่าๆ กัน แล้วนำมาเป็นน้ำมันนวดผิวที่ถูกน้ำมันลวกทุกเช้า-เย็น จะช่วยลดอาการตึง ลดการอักเสบ
ทาน้ำมันมะกอกป้องกันแผลเป็น
นอกจากใช้ในการบำรุงผมแล้ว น้ำมันมะกอกยังมีส่วนช่วยรักษาแผลเป็น หลังจากอาการแสบร้อนจากแผลน้ำมันลวกบางเบาลงแล้ว ให้ทาน้ำมันมะกอกตรงบริเวณที่เป็นแผลทุกวันหลังอาบน้ำ จะช่วยบรรเทาและป้องกันการเกิดแผลเป็นได้ หรือใครมีน้ำมันลาเวนเดอร์ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
น้ำมันมะพร้าวช่วยลดรอยดำ
สาวๆ หลายคนไม่ชอบแน่ หากแผลจากน้ำมันลวกทิ้งรอยด่างดำไว้ให้ดูต่างหน้า แต่ถ้ามีน้ำมันมะพร้าวก็หายห่วงได้ โดยน้ำมาผสมกับน้ำมะนาว ในปริมาณเท่าๆ กัน นำมาทารอยดำที่เกิดจากน้ำมันกระเด็นทุกเช้า-เย็น วิตามินอีและกรดไขมันจากน้ำมันมะพร้าว พร้อมด้วยวิตามินซีจากมะนาวจะช่วยลบเลือนรอยดำให้จางลงได้
ทายาบรรเทาอาการ
ในกรณีที่บ้านของคุณมียาที่ใช้ในการรักษาแผลพุพอง จำพวกครีมไตรแอมซิโนโล หลังจากล้างแผลให้สะอาด ซับให้แห้งดีแล้ว ให้นำมาทาที่บริเวณแผลน้ำมันลวกพุพองหรือตรงที่หนังหลุดลอก จะช่วยรักษาอาการแผลพุพอง แผลไหม้ได้
ความเร็วในการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุน้ำมันลวกหรือถูกของร้อนใดๆ ลวก จนตั้งสติ รีบนำน้ำเย็นมาลาดแผล หรือรีบนำน้ำแข็งมาประคบให้ความเย็นช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนเบื้องต้น และเพื่อยับยั้งการเป็นแผลพุพองบริเวณผิวหนัง และจากนั้นถ้าบ้านของคุณมีสิ่งใดใน 12 ที่กล่าวมาก็เลือกมาใช้ในการรักษาแผลได้ตามความสะดวก เคล็ดลับความรู้ดีๆ แบบนี้ อย่าเก็บไว้คนเดียว แบ่งปันเพื่อนๆ ของคุณด้วยนะ
เรียบเรียงโดย : Postsara
ขอขอบคุณ : รักษ์สุขภาพ