ประโยชน์ของการดื่มกาแฟดำ

0

ประโยชน์ของการดื่มกาแฟดำ

เครื่องดื่มยอดฮิตของผู้คนทั่วโลก หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “กาแฟ” อย่างแน่นอน ซึ่งคุณประโยชน์จากกาแฟนั้นก็มีมากมายหลากลายอย่าง แต่บางกระแสก็ว่าการดื่มกาแฟนั้นไม่ดี ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

วันนี้เราขอนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับกาแฟ มาเป็นความรู้แก่ผู้รักเครื่องดื่มชนิดนี้ ได้ทราบถึงประโยชน์ที่แท้จริงของกาแฟ แก้ไขความเข้าใจผิดให้เข้าใจถูก จะได้ดื่มกาแฟกันอย่างมีความสุข

ประโยชน์ของการดื่มกาแฟ

1. มีการวิจัยค้นพบว่า คนที่ดื่มกาแฟวันละไม่เกิน 5 แก้ว จะมีอัตราในการช่วยลดการเกิดโรคหัวใจได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเพศหญิง สามารถช่วยลดน้ำหนักการเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ถึง 26 เปอร์เซ็นต์ และกาแฟยังมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในโลหิตทำให้โลหิตไม่แข็งตัว

2. มีการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารโภชนาการทางการแพทย์ระบุว่า กาแฟสามารถช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในกลลุ่มคนที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้ว จะมีโอกาสในการลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานมากกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ

3.ในการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ ที่ให้ผู้ทดลองคนวัยกลางคนดื่มกาแฟวันละ 5 แก้ว พบว่ากาแฟมีส่วนช่วยชะลออาการความจำเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้มากถึง 65% ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยในสหรัฐอเมริกาเหนือ ที่ได้กล่าวไว้ว่า คนที่ดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน จะได้รับการกระตุ้นทางสมองได้ดีกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ช่วยเพิ่่มความจำ สมองทำงานเร็วขึ้น มีความทรงจำดี

4. เป็นที่ทราบกันดีว่า กาแฟมีกาเฟอีนที่มีฤทธิ์ช่วยขยายหลอดโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตได้ดี และมีคุณสมบัติช่วยระงับความเจ็บปวด จึงมีส่วนช่วยกาแฟช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและปวดไมเกรน และอาการปวดศีรษะ ดังนั้นกาแฟจึงเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับคนที่เป็นไมเกรน

5. ช่วยป้องกันมะ เร็งได้ถึง 50% ในประเทศญี่ปุ่นมีการศึกษาค้นพบว่าผู้ชายที่ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวัน มีอัตราการความเสี่ยงต่อการเกิดมะ เร็งต่อมลูกหมากน้อยว่ากลุ่มคนที่ไม่ดื่มกาแฟ และผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 3 แก้วต่อวัน มีแนวโน้มการเกิดมะ เร็งลำไส้ใหญ่ลดน้อยลง เพราะในกาแฟมีกรดอะซิติก ที่ช่วยยับยั้งและทำลายเซลล์ผิดปกติ กำจัดสารภายในร่างกาย ช่วยป้องกันมะ เร็งที่มีอาการในระยะแรกได้หลากหลายชนิด

6. ลดโอกาสเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้สูงถึง 50% มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทำการวิจัยและค้นพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้ว มีอัตราการเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลงถึง 25% และก่อนหน้านั้นยังมีผลการวิจัยในเพศชาย ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเสียงเดียงกัน

7. ใครที่ป่วยเป็นโรคหอบหืดจงอ่านให้ดี เพราะในกาแฟ ยังมีส่วนช่วยป้องกันและบรรเทาการเกิดโรคหอบหืด เพราะกาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์ช่วยระงับความเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหอบหืด หากเมื่อใดที่ประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น โรคหอบหืดก็จะกำเริบ ดังนั้น หากดื่มกาแฟประสาทส่วนนั้นก็จะไม่ถูกกระตุ้น ทำให้อาการหอบหืดไม่กำเริบขึ้นมานั่นเอง

8. กาแฟมีส่วนช่วยในการคลายเครียด ทำให้อารมณ์แจ่มใสได้มาก 15-20% มีผลการวิจัยยืนยันว่าการดื่มกาแฟ 2-3 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเครียดได้ 15% และถ้าดื่มมากกว่าวันละ 4 แก้ว ความเครียดจะลดลงมากถึง 20% เพราะหากร่ายกายได้รับกาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยทำให้ผ่อนคลาย สามารถทำให้หายจากอารมณ์หงุดหงิดและซึมเศร้า

9. ข้อนี้สาวๆ ต้องชอบ กาแฟมีส่วนช่วยในการสลายไขมัน หากคุณดื่มกาแฟหลังมื้ออาหาร กาเฟอีนจะทำให้ไขมันในอาหารที่เรากินเข้าไปเกิดการแตกตัวและให้พลังงานทดแทน ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของเมตาบอลิซึ่ม มีงานวิจัยรับรองอีกหลายชิ้นด้วยว่ากาเฟอีนมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้

10. ประโยชน์ของกาแฟในด้านการกีฬาก็มีด้วย รู้หรือไม่ว่ากาเฟอีนทำให้เรามีความสามารถในการเล่นกีฬาได้ดีขึ้น เพราะกาเฟอีนจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้สูงถึง 40% และยังช่วยลดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อของพวกนักกีฬา หรือในกลุ่มคนหลังการออกกำลังกายได้มากถึง 50% เลยทีเดียว

11. กาแฟมีส่วนลดการเกิดโรคพาร์กินสัน 25% สอดคล้องกับการวิจัยของศูนย์การแพทย์ในนครฮอนโนลูลู ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำมีโอกาสป่วยเป็นโรคพาร์กินสันน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่ม

12. มีผลการวิจัยแนะนำให้คนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปดื่มกาแฟเป็นประจำวันละ 3-6 แก้ว เพราะกาเฟอีนมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบของข้อที่มีสาเหตุจากกรดยูริกเกินขนาด ช่วยลดอัตราเสี่ยงของโรคเกาต์ได้สูงถึง 60%

13. อีกหนึ่งประโยชน์ดีๆ คือ ช่วยชะลอความชรา ในกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีสรรพคุณช่วยให้เซลล์ผิวหนังแข็งแรง ป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่น สามารถช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยกระชับรูขุมขนและขับสารหรอสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

14. เป็นที่รู้กันดีว่าในกาแฟมีกาเฟอีนที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทส่วนกลางและสมอง ทำให้ร่างกายของเรากระปรี้กระเปร่า ช่วยให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงกลับมามีเรี่ยวแรง สดชื่น หายจากอาการอ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายตื่นตัวพร้อมรับมือกับวันใหม่

ขอบคุณข้อมูล : share-si

เรียบเรียงโดย : Postsara

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here