ข้อคิดสอนใจ

อย่าช่วยแต่คนอื่น จนตัวเองต้องมานั่งเป็นทุกข์ การช่วยเหลือผู้อื่น การเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นเรื่องที่ดี แสดงให้เห็นถึงความมีจริยธรรมในทางพระพุทธศาสนา และการเป็นคนดีในสังคมปัจจุบัน แต่หลายคนที่ไม่ได้ยื่นมือช่วยเหลือไม่ได้หมายถึงคุณไม่มีจริยธรรม หรือการเป็นคนดีแต่อย่างใด การที่เราจะสามารถช่วยเหลือคนอื่นในบางเรื่องที่เขาเดือดร้อน ตัวเราเองก็จงคิดทบทวนดีๆว่า การช่วยเหลือนั้นสำคัญ จำเป็น และมีผลกระทบต่อตัวเราเองหรือไม่ บางทีต้องช่วยเหลือผูอื่นจนตัวเราเองลำบาก แบบนี้ก็ไม่แฟร์กับตัวเราเลยนะคะ 1. ตกในสภาวะลำบาก ความชอบสงสาร ใจดีของตัวเราเองนั้น ทำให้ใครหลายๆคนเข้าหา เพื่อจะขอความช่วยเหลือในทุกๆเรื่อง และตัวเราเองก็ยินดีที่จะยื่นมือเข้าช่วยอย่างไม่ลังเลแต่อย่างใด จนบางครั้งลืมมองตัวเราเองว่าการช่วยเหลือเหล่านั้นอาจจะทำให้ตัวเองคนรอบข้างตกอยู่ในสภาวะลำบากเหมือนกันก็ได้ 2. ต้องคอยแบกรับปัญหาของคนอื่น การที่เราต้องมาคอยรับรู้ปัญหาของผู้อื่น ทั้งๆที่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเลยแม้แต่น้อย มันจะทำให้เราทั้งเหนื่อยกายและเหนื่อยใจที่คอยต้องมานั่งแก้ปัญหา...

อยากให้ทุกคนได้อ่าน อายมากหรือ ที่มีพ่อจน(เตือนลูกๆทุกคนได้ดี) ในวันนี้ดิฉันเลิกงานเร็วกว่าปกติ เลยพาพี่สาวไปซื้อของใช้ที่ห้างแห่งหนึ่ง รอต่อแถวจ่ายตังค์นานมากเลยในวันนี้ พี่สาวก็เริ่มจะงอแง เพราะเหนื่อยกับการทำงานมาตั้งแต่ตี 4 จนถึง 5 โมงเย็น สังเกตว่าด้านหน้านั้นมีคิวต่อกันอยู่กลุ่มหนึ่ง มากันเป็นครอบครัว มีพ่อแม่ลูก ลูกเขาก็อายุไล่เลี่ยกับลูกของดิฉันค่ะ แล้วก็มีผู้สูงอายุคนหนึ่ง ที่เด็กคนนั้นเรียกว่าปู่ เขาคุยกันยิ้มแย้มแจ่มใสดี ซื้อของล้นตะกร้าเลยแหละ พอแคชเชียร์ได้ทำการคิดเงินของครอบครัวนี้จนเสร็จ ดิฉันเองก็ได้ยินคร่าวๆว่าประมาณพันกว่าบาท คนที่เป็นปู่เป็นคนเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าๆใบนั้น เพื่อที่จะจ่ายตังค์ พร้อมทำท่าอ้ำอึ้ง ลูกสะใภ้ทั้งสองคนทำตาเขม็งและหุบยิ้มไปทันที “ว่ายังไงพ่อ.. จ่ายเงินเขาไปสิ”...

6 เหตุผลที่หลายคนไม่แต่งงาน ต่างคนนั้นมีเหตุผลในเรื่องของ การแต่งงาน บางคนเลือกที่จะมีชีวิตแบบเรียบง่าย ทั้งๆที่มีคู่อยู่แล้วแต่ก็รู้สึกว่า การแต่งงาน ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต บางคนก็มีภาระหน้าที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เรื่องการแต่งงานนั้นไม่สะดวก บางคนก็มีเหตุผล.. 1. เพราะการไม่แต่งงานไม่ได้หมายถึงการอยู่คนเดียว เมื่อเราแต่งงาน อย่างน้อยคุณก็มักจะมีใครอีกคนอยู่เคียงข้างเสมอ แต่สำหรับฉันแล้วนั้น ฉันอยากจะบอกว่าต่อให้ไม่ได้แต่งงาน คุณก็ยังมีใครสักคนอยู่เคียงข้างได้เช่นกัน มีคนให้รัก มีคนให้ไว้ใจ หัวเราะด้วยกัน ทะเลาะ คิดถึง รวมทั้งพึ่งพาซึ่งกันและกัน เนื่องจากการไม่แต่งงานนั้นไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องอยู่คนเดียว คุณยังมีเพื่อน ยังมีพี่...

ผมมีภรรยาอยู่แล้ว แต่ผมลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตไป ในวันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับสองสามีภรรยาคู่หนึ่งที่รักกันมาก คนนี้เป็นรักแรกของผม แต่หลังจากที่ผมประสบความสำเร็จ กลับทิ้งเธอไป เรื่องราวของเราเริ่มต้นตั้งแต่สมัยมัธยม เราเรียนมัธยมด้วยกัน เมื่อเรียนจบเราก็ไปต่อมหาวิทยาลัยในเมือง ส่วนเธอนั้นก็ทำงานอยู่ที่บ้าน ผมเป็นคนเดียวของหมู่บ้านที่เรียนถึงมหาวิทยาลัย แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา เมื่อพ่อของผมป่วย จากอุบัติเหตุในเหมืองถ่านหินทำให้ไม่มีเงินที่จะส่งผมเรียนต่อ จึงได้หยุดเรียนไว้ก่อน แฟนของผมนั้นเธอเป็นคนที่ดีมาก ยอมนั่งรถไฟลำบากมาถึง 2 วัน เพื่อมาผม เธอได้ยื่นสมุดบัญชีเก่าๆเล่มหนึ่ง เธอบอกกับผมว่า “คุณเอาเงินนี้ไปเรียนต่อเถอะนะ คุณเป็นความหวังของคนทั้งหมู่บ้าน และเป็นความภาคภูมิใจของฉันด้วย” เมื่อเธอพูดจบทำให้ผมได้มีกำลังใจที่จะเรียนต่อ เธอเป็นคนที่ให้กำลังใจผมดีมาก ดีมาตลอดเวลา จากนั้นไม่นานเธอก็ได้ย้ายเข้ามาพักในเมือง...

ทำไมชูชกได้ภรรยาสวย ทำไมนางอมิตตดาได้สามีอัปลักษณ์ ว่าด้วยเรื่องนางอมิตตาได้ชูชกเป็นสามี นางอมิตตานั้นเป็นคนที่ตั้งใจดูแลชูชกเป็นอย่างดี จนพราหมณ์หนุ่มทั้งหลายในหมู่บ้านต่างพากันตำหนิภรรยาของตน พูดว่านางอมิตตาเป็นภรรยาที่ดีกันเกินไปหรือเปล่า จนทำให้นางพราหมณีที่อยู่ในหมู่บ้านทั้งหลายพากันรุมว่า เหตุใดคนดีๆอย่างนางอมิตตาจึงได้ชูชกเป็นสามี ทำไมถึงได้ขอทานเฒ่าคนนี้เป็นสามี เพราะในอดีตชาตินั้นนางอมิตตาเคยเอาดอกบัวที่เหี่ยวเฉาไปถวายพระ ปรากฏในมหาเวสสันดรชาดก พระเวสสันดรอันเป็นชาติสุดท้ายของการสั่งสมบารมีเพื่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ชูชกเป็นพราหมณ์อยู่ในเมืองกลิงคราษฎร์ เที่ยวท่องขอทานไปทั่ว และด้วยนิสัยประหยัด มัธยัสถ์ รู้จักอดออม เงินที่ขอเขามาเก็บไว้จึงมากมายเข้าขั้นเศรษฐี ชูชกนำไปฝากเพื่อนพราหมณ์ไว้ ครั้นเมื่อกลับไปทวงถาม ปรากฎว่าเพื่อนได้ใช้เงินหมดไปแล้ว เลยยกลูกสาวคือนางอมิตตดาวัยแรกรุ่นสวยงาม สดใสให้แทน ทั้งที่ชูชกมีรูปร่างอุบาทว์อัปลักษณ์ยิ่งนัก แต่นางอมิตตดาก็ขยันปรนนิบัติสามีเป็นอย่างดี นางตักน้ำ ตำข้าว หุงหาอาหาร ดูแลบ้านเรือนไม่มีขาดตกบกพร่อง...

ภรรยาผมไม่มีรายได้ ข้อคิดดีๆ ที่อยากให้ทุกคู่ได้อ่าน การใช้ชีวิตคู่ของคนสองคนย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย หากยังไม่รู้จักการมีความรัก ความเสียสละ และความเข้าใจ เมื่อเราขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปการใช้ชีวิตคู่ย่อมเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น และมีปัญหาที่ทำให้บั่นทอนความรู้สึก และวันนี้เราได้มีบทความหนึ่งเป็นข้อคิดของการใช้ชีวิตคู่ เมื่อได้อ่านแล้วคุณจะเข้าใจมากขึ้น จะสามารถตอบคำถามที่ค้างคาใจของหลายๆคู่ได้ดี งานของเธอ นั่นคืองานของผม งานของผม นั่นคืองานของเธอ เราสองคนแค่เพียง "แบ่งหน้าที่กันทำ" ก็เท่านั้น ผมเป็นเพียงแค่เป็นคนที่ไปรับเงินมา ในชื่อของผม แต่ถ้าหากว่าผมไม่มีเธอ ผมก็จะไม่สามารถทำงานนั้นๆได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่มีอีกคนที่จะคอยช่วยเหลือ คอยดูแลงานที่บ้านและลูก และในชีวิตของผมในส่วนพักใจของผมทั้งหมด งานของเธอไม่มีวันหยุด และไม่มีเวลาพักที่แน่นอน และที่สำคัญนั้นน่าเบื่อยิ่งกว่างานออฟฟิศ โอกาสที่จะเห็นการเจริญเติบโตในงานนี้คือ เห็นทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านวางอย่างเรียบร้อย บ้านสะอาดจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เห็นลูกได้เติบโต และร่างกายแข็งแรง และมีโบนัสคือ ของที่เธออยากได้เพียงแค่นั้น สามี ภรรยาคือร่างกายเดียวกัน วิ่งอาจเมื่อยที่ขา แต่ใจดวงเดียวในร่างกายกลับเต้นแรง กินอาจอิ่มที่ท้อง แต่ใจดวงเดียวในร่างกายกลับมีความสุข ในวันที่ผมหาเงินมาได้ มันจึงเป็นเงินของเรา เพราะงานที่ทำนั้นคืองานของเรา การที่เธอทำอาชีพแม่บ้าน ไม่ได้หมายความว่าเธออยู่บ้านเฉยๆ แต่มันคืออาชีพที่เธอรับภาระอีกส่วน...

คนเป็นลูกควรอ่าน เงิน 1 พันบาท เลี้ยงหัวใจแม่สำคัญมากๆ บทความพิเศษ เงิน 1,000 บาท ของอาจารย์ท่านหนึ่งที่ได้หล่อเลี้ยงหัวใจของแม่เขาทุกเดือน หลายคนสงสัยว่าทำไมจะต้องเป็นเงิน 1,000 บาทในแต่ละเดือน ในเมื่อแม่ก็อยู่บ้านอาศัยอยู่กับอาจารย์ ค่าใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่างอาจารย์ก็เป็นคนจัดให้แม่หมด ในวันนี้ผมมีโอกาสที่อยากจะบอก และแบ่งปันเรื่องราวดีๆให้กับเพื่อน ได้ตระหนักถึงพระคุณพ่อและคุณแม่ อาจารย์ครับ อาจารย์กำลังทำอะไรอยู่หรอครับ? อาจารย์ได้ตอบว่า ผมกำลังจัดรายการรายรับรายจ่าย ผมก็ต้องจ่ายเงินให้กับแม่ครัว คนขับรถ คนทำความสะอาดบ้าน อีกทั้งยังให้แม่อีก 1,000 บาท...

พูดเจ็บแต่จริง ''เผยนิสัยคนจน'' ต่อให้มีเงินมากแค่ไหนก็ไม่รวยสักที ผมเชื่อเหลือเกินว่า ในปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตภายใต้ความสะดวกสบาย อยากจะมีกินมีใช้ อยากจะใช้เงิน แต่ลืมกันไปหรือเปล่าว่า หากเราทำนิสัยแบบนั้น ภายในไม่เกิน 2 ปี เชื่อเถอะว่า เราจะต้องจน หมดเงินหมดทอง แล้วถึงจะมาคิดทีหลังได้ นี่คือประสบการณ์โดยตรงของผม “คนรวย” เขาซื้อของแพงๆหลังจาก “รวยแล้ว” “คนจน” ซื้อแต่ของแพงทั้งๆที่ “ยังไม่รวย” “คนรวย” สร้างแต่ “กิจการ” ไปตรงไหนก็มีสาขา มีร้านตัวเอง หันไปทางไหน...

เผย 12 ข้อ การมีมารยาททางสังคม ที่ควรทำและไม่ควรทำ การใช้ชีวิตของคนเรานั้น เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนสังคม ดังนั้นการมีมารยาทในสังคมเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับทุกคน เพราะเราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสังคมเพื่อน สังคมวัยทำงาน หรือแม้แต่คนในครอบครัว ทุกๆคนต่างหวังที่จะให้คนอื่นนั้นพูดดีด้วย มีมารยาทที่ดีต่อกัน ดังนั้นเราควรที่จะมีมารยาทที่ดีกับคนอื่นๆก่อน ในวันนี้เราได้รวบรวมมารยาททางสังคมที่จำเป็นมากๆต่อการเข้าสังคม ไม่ว่าจะด้านไหน หากคุณได้ทำตามนี้แล้วคุณจะมีความรู้สึกที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน 1. ในเวลาที่เราได้รับข้อความแชท อย่าอ่านแต่ไม่ตอบ เพราะต่อให้เราไม่อยากที่จะพูดด้วย หรืออาจจะไม่ว่างตอบ แต่ถ้าเราเปิดอ่านแล้ว การที่เราไม่ตอบจะเป็นสิ่งที่เสียมารยาทมากๆ เราอาจจะส่งสติ๊กเกอร์ หรือตอบอย่างสั้นๆไปก็ดี แต่การที่เราไม่ตอบข้อความไม่ใช่ว่าเรานั้นถือไพ่เหนือกว่าคนอื่น...

สามีแอบกลับมาบ้าน เห็นสิ่งที่ภรรยาเอาให้แม่กิน อ่านจบแล้วร้องไห้เลย เรื่องในวันนี้ เป็นเรื่องเล่าจากตัวพี่ชายของฉัน เป็นเรื่องจริงที่ฉันอยากจะเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้รู้กันค่ะ โดยลูกสะใภ้ได้พูดว่า "ตอนทำรสชาติจืด แม่ก็ไม่ชอบ บอกว่าไม่มีรสชาติ พอทำเค็มนิดหน่อย ก็บ่นว่าเค็ม เอ๊ะ!! แล้วจะเอายังไง' เมื่อแม่เห็นลูกชายแอบกลับมากระทันหัน เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่กลืนข้าวเข้าปาก ลูกสะใภ้มองตามด้วยความโกรธ เมื่อลูกชายลองชิมอาหารที่แม่กำลังกิน ก็พูดกับภรรยาว่า “ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าโรคของแม่กินเค็มมากไม่ได้?” “เอาละ! ในเมื่อเป็นแม่ของคุณ วันหลังคุณก็ทำเองก็แล้วกัน” ลูกสะใภ้กล่าวด้วยความโมโห แล้วก็สะบัดหน้าเดินเข้าห้องไป ลูกชายเรียกตามด้วยความจนใจ จากนั้นก็หันมาพูดกับแม่ว่า “แม่ครับ ไม่ต้องกินหรอก...