ข้อคิดสอนใจ

หากได้เป็นหัวหน้าคน ทิ้งอะไรทิ้งได้ แต่อย่าทิ้งลูกน้อง ข้อคิดเตือนใจสำหรับหลายๆท่าน ที่ในวันนี้เรามีมาส่งต่อให้กับทุกคน เรียกได้ว่าเป็นข้อคิดเตือนใจที่ดีที่หลายคนอาจจะละเลยกับสิ่งเหล่านี้ได้ หากคุณเป็นหัวหน้าคนเป็นนายคน สิ่งหนึ่งที่คุณควรทำคุณทิ้งอะไรก็ได้แต่คุณอย่าทิ้งลูกน้อง ต่อให้เขาทำงานแย่แค่ไหน หรือไม่ถูกใจในบางเรื่องก็ต้องพยายามช่วยเขาให้ถึงที่สุด ลูกน้องเรานั้นมักมีหลายแบบหลายประเภทเช่น ความรู้น้อยแต่พยายามมาก ความรู้มากแต่พยายามน้อย ความรู้น้อยแถมไม่พยายาม ถ้าเป็นแบบที่ 1 เราต้องสอนให้เขาได้รู้ถึงความรู้ต่างๆที่เราสามารถจะสั่งสอนเขา ได้เป็นพี่เลี้ยงที่ดีให้กับเขา สอนให้เขามีความรู้ความสามารถรอบด้าน ประเมินผลงานและติดตามผลงานอย่างใกล้ชิด ถ้าเป็นแบบที่ 2 ต้องเข้าไปคุยกับเขาทั้งในเรื่องของงาน ในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันของเขา เรื่องส่วนตัวของเขารวมไปถึงเรื่องอนาคตของเขาด้วยแพยายามที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาคิด แล้วค่อยชี้เป้าหมายชีวิตไปในทางที่เขาต้องการและหนทางที่ดีที่สุด ถ้าเป็นแบบที่ 3 เราสามารถช่วยเขาได้เท่าที่เราช่วยได้ แล้วปล่อยให้เขาคิดเองทำตามสิ่งที่เขาต้องการถ้าเขาไม่สามารถปรับตัวเข้าหาสังคมคนที่จะลงโทษตัวเขาก็เป็นตัวเขาเองนั่นแหละ ฝากไว้อีกนิด.. การดูนิสัยคนในสังคมการทำงาน ถ้าเกิดเราเป็นหัวหน้าคนเป็นนายคนเราอยากที่จะรู้ว่าคนคนนั้นเป็นอย่างไร ให้ดูจากพฤติกรรมที่เขาทำกับหลายๆคนหรือทำกับผู้ใต้คับบัญชา...

คนบางคน "เขาแค่ชินกับความใจดี แต่เขาไม่เคยเห็นค่า” คนเราหากจะพูกถึงนิสัย ไม่มีใครที่จะมีนิสัย หรือความคิดเห็นที่เหมือนกันหมดทุกอย่าง มันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน คนบางคนเขาทำดีกับคุณมาโดยตลอด แต่ตัวคุณเองก็ไม่เห็นค่าซะงั้น กลับไปให้ความสำคัญกับคนอื่นทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้ดีกับคุณเลย สำหรับคนบางคน ”ชินกับความใจดีของคุณแต่ไม่เคยเห็นค่า” ทำไมพวกเขาไม่เห็นคุณอยู่ในสายตา? ”เพราะคุณ…ยังไงก็ได้ อะไรก็ดี” มีเรื่องอะไร รายงานคุณก็จบ อยากได้อะไร แค่บอกคุณก็ให้ ทำผิดอะไร คุณก็ไม่ติดใจเอาความ ถูกทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า คุณก็ยังยอมทน จำไว้นะ... สำหรับคนบางคนนั้น ชินกับการได้อยู่อย่างเดียว แต่ไม่เคยสำนึกบุญคุณ "ชินกับความใจดีของคุณ แต่ไม่เคยเห็นค่า" ชินกับความใจกว้างของคุณ แต่ไม่เคยเจียมตัว เป็นคนใจดีนะ ก็ดีอยู่ แต่ให้มีขอบเขตบ้าง อย่าเอาแต่นึกถึงคนอื่น หันกลับมาถามตัวเองดูบ้าง ว่าใครที่นึกถึงความรู้สึกของคุณ? ไม่มีใครกลัวว่าจะถูกคนอื่นทำร้าย เขากลัวคนที่กลับมาทำร้าย คือคนที่เขาไว้ใจและเชื่อใจที่สุด ไม่มีใครกลัวว่าจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ เขากลัวคนที่หันกลับมาหัวเราะเยาะ คือคนที่เขาไม่เคยมีความลับใดๆ การเป็นคนมีน้ำใจไม่ได้แปลว่าโง่ การเป็นคนดีก็ไม่ได้แปลว่าเซ่อ ใช่ว่าเขาไม่รู้ ว่าเธอเป็นคนยังไง ก็แค่ไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก : นุสนธิ์บุคส์

ขายข้าวกะเพราจานละ 20 บาท ไม่มีจ่ายหยิบคูปองทานฟรี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวดีๆที่เราอยากจะส่งต่อให้กับทุกท่านได้อ่าน ถึงน้ำใจของคนบ้านเราที่เขามีน้ำใจอยากที่จะช่วยเหลือกับคนที่ไม่มีโอกาสหรือผู้ยากจน ข้าวราดกระเพราหมูสับ ไม่มีผักอื่นปนเพื่อเพิ่มปริมาณ ที่ให้สำหรับลูกค้าได้กินอิ่มอย่างสบาย ชื่อร้าน "กระเพรายักษ์ใหญ่ใจดี" ตั้งอยู่ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ในปัจจุบันนี้เขาได้ขายข้าวกะเพราเพียงจานละ 20 บาทเท่านั้น แต่หากใครที่ไม่มีเงินจะมาซื้อสามารถหยิบคูปองที่แขวนไว้อยู่บนกระดานแผ่นใหญ่หน้าร้าน นำมาแลกกับข้าวกระเพราไปรับประทานได้อย่างฟรีๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เคยถูกตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมา จากลูกค้าหลายๆท่านที่เขาได้มาเป็นลูกค้าในร้านนี้ ทำแบบนี้มีกำไรหรอ ทำไปเพื่ออะไร จะทำไปทำไม และทางทีมงานได้เข้าไปสอบถามข้อมูลกับเจ้าของร้านถึงสิ่งที่เขาทำอยู่หรือเจ้าของร้านได้ระบุไว้ว่า ช่วงสายของวันเปิดร้านตามปกติ คุณรุจน์ สุวรรณเสรีเกษม เจ้าของกิจการ...

หญิงสาวพาแม่วัยชรา ไปกินอาหารร้านหรู เธอทิ้งสิ่งหนึ่งไว้ ทำเอาคนในร้านเงียบกริบ มีลูกสาวคนหนึ่งได้พาแม่วัยชราไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง แต่กลับโดนเหยียดหยามจากสายตาคนอื่น แต่เมื่อหญิงสาวทิ้งสิ่งหนึ่งไว้ทำเอาคนทั้งร้านกับต้องเงียบกริบกันเป็นแถว เมื่อลูกสาวได้พาแม่ผู้ชราแต่กินอาหารค่ำ ที่ร้านอาหารหรู แห่งหนึ่ง แต่ในร้านนั้นมีแต่คนชนชั้นสูงมารับประทานอาหารที่แต่งตัวดูดี หน้าตาดี มีรถคันใหญ่มาจอดถึงหน้าร้าน แต่แม่ของเธอดูสูงวัยและอีกทั้งยังไม่มีเรี่ยวแรง กินอาหารด้วยมือสั่น จนทำให้อาหารตกหล่นบนเสื้อผ้า และพื้นเต็มไปหมด ช้อนกระทบจานทำให้ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นจนแขกโต๊ะอื่นๆมองด้วยสายตาที่เหยียดหยามและน่าสมเพช ในขณะที่ลูกสาวของเธอนั่งอยู่ข้างๆช่วยตักอาหารและพูดกับแม่อย่างยิ้มแย้มด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เธอไม่สนใจแม้ใครจะมองมา เมื่อแม่กินเสร็จลูกสาวก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะอับอายต่อสายตาคนที่มอง พาแม่ของเธอไปที่อ่างล้างมือในห้องน้ำ เช็ดคราบขี้เปื้อนจากอาหารบนเสื้อผ้าของแม่เธอ หวีผมให้เรียบร้อยและช่วยขยับแว่นให้เข้าที่เข้าทาง ในขณะที่เธอและแม่ของเธอเดินออกมาจากห้องน้ำนั้น คนทั้งห้องอาหารมองมาด้วยสายตาเดียวกัน เหมือนจะหมายความว่าไม่อายบ้างหรอที่มาทำตัวแบบนี้ในร้านอาหารหรู ลูกสาวจ่ายค่าอาหารแล้วพาแม่เดินช้าๆ ผ่านโต๊ะอื่นๆ...

หากคุณเกิด พ.ศ. 2500–2535 คุณเป็นคนที่โชคดีที่สุด อ่านแล้วมีความสุขอย่างแน่นอน ชีวิตของคนเราหลายๆคนที่เกิดมานั้นชีวิต ล้วนมีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ในส่วนมากนั้นจะขึ้นอยู่กับยุคสมัยที่เราเกิดมา ความนิยมและความชื่นชอบต่างๆของคนในแต่ละสมัยก็แตกต่างกันออกไป ในวันนี้เราได้มีคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2500–2535 เราเชื่อได้ว่าคุณคือคนที่โชคดีที่สุด เพราะในแต่ละเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความทรงจำดีๆที่บางทีเราก็ไม่อาจลืมได้ เหตุผล 44 ข้อที่ทำให้คนเกิดช่วงอายุนี้กลายเป็นคนโชคดี ไปดูกันเลยว่าเพราะอะไร 1. คุณอาจเป็นรุ่นสุดท้ายที่มีโอกาสได้เล่น มอญซ่อนผ้า กระโดดเชือก รีรีข้าวสาร กระโดดยาง เป็นต้นโดยที่ในสมัยนี้หาดูได้ยากหรือต้องหาดูได้ที่งานแสดงศิลปะวัฒนธรรม 2. คุณอาจจะเคยได้ฟังเพลงในยุคนี้ที่หาฟังได้ยากอย่าง...

หัดพูดจาเพราะๆกับคนในครอบครัวบ้าง เดี๋ยวจะมานั่งนึกเสียดาย คนเราหลายๆคนมักจะให้ความสนใจกับคนนอกบ้านมากกว่าคนในบ้าน จากที่เห็นมานักต่อนักว่าทำไมในบางครั้ง ถึงได้พูดจาดีกับคนนอกบ้านอยู่เสมอ แต่กับคนในบ้านไม่สนใจและไม่ใส่ใจกันกับต้องคอยทะเลาะแล้วคอยเถียงอยู่ตลอดเวลา ให้กำลังใจกัน ในเวลาที่ "ทุกข์" เมื่อทำผิดพลาดอย่า "โทษ" อีกฝ่าย เพื่อจะก้าวผ่าน "ปัญหา" ในหลายเรื่องร้ายๆไปให้ได้ ทุกปัญหาที่เข้ามาเมื่อเวลาผ่านไป ปัญหาก็จะหายไปพร้อมกับเวลา ถึงจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่โต ควรจำเอาไว้เสมอว่าไม่นานก็ผ่านไป จงทำให้ความรักชีวิตเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องคิดมาก และวิตกกังวลในทุกๆเรื่อง มองโลกให้กว้าง ด้วยความเป็นจริง ไม่ต้องคิดอะไรมากมายเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่กับความสุขในสิ่งที่ตนมี ไม่เปรียบเทียบกับคนนั้นกับคนนี้ ว่าใครดีกว่ากันหรือเปรียบแฟนตัวเองกับคนอื่น ทำชีวิตรักของคนสองคนให้มีความสุขหัวเราะไปพร้อมๆกัน ใช้เวลาให้เต็มที่ ปลอบโยนปลอบใจกันเมื่อยามอีกฝ่ายเศร้าเสียใจ จงทำในเวลาที่ยังมีโอกาสเพื่อให้ความรักชีวิตคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ทุกข์กับอดีตไม่คาดหวังกับอนาคตอยู่กับปัจจุบันให้มีค่ามากที่สุด เก็บความทรงจำดีๆ แล้วมองไปข้างหน้าทำทุกวันอย่างมีสติไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายๆมากแค่ไหน ขอจงตั้งใจและตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดไม่ว่าจะต้องเจอทางแยกก็จงเลือกทางของเรา พักผ่อนกับงานที่ทำบ้าง นอนดูหนังฟังเพลงตื่นสายๆ ทำทุกอย่างที่อยากทำออก ไปนั่งร้านอาหารบ้างตามวันพิเศษ ให้เวลากับครอบครัวบ้าง เพื่ออยู่ด้วยกันอย่างความสุขใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด อยู่กับคนที่เรารัก...

15 ลักษณะผู้ชายดีๆ ที่ฝากชีวิตไว้ได้ คุณคงเคยได้ยินคำว่า “มีคู่ผิด คิดจนตัว...” มาบ้างอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ต้องมองข้ามขั้นไป ชีวิตคนเรานอกจากเรื่องเงิน เรื่องงาน ก็คงต้องเป็นเรื่องความรักนี้แหละที่ชวนให้ปวดหัว ถ้าหากคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังตามหาใครซักคนที่จะเข้ามาเติมเต็มชีวิตคุณ คุณลักษณะแบบไหนที่คุณต้องการ ผู้ชายแบบไหนที่เหมาะสมกับคุณ และไม่ใช่เรื่องง่ายใช่ไหม ที่จะหาคนที่เข้ากับคุณได้ทุกสิ่ง แต่ว่าอย่างน้อย ผู้หญิงก็พึงสังเกตชายหนุ่ม ว่าเขามีลักษณะที่ดี คู่ควรที่จะดูแลหัวใจของเราหรือเปล่า และวันนี้เราจะมาเปิดเผย 15 ลักษณะผู้ชายที่ควรคบ เหมาะที่จะฝากชีวิตไว้ 1. ผู้ชายที่ทำให้คุณมั่นใจว่าจะปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่กับเขา ผู้ชายที่จะจูงมือคุณข้ามถนนอย่างปลอดภัย ผู้ชายที่จะปกป้องคุณจากอันตรายต่างๆ รอบข้าง 2. ผู้ชายที่กล้าจูงมือคุณโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น ผู้ชายที่ไม่อายที่จะแสดงความรักต่อคุณ แสดงว่าเขารักและภูมิใจในตัวคุณเอามากๆ 3. ผู้ชายที่พาคุณไปพบพ่อแม่ของเขาอย่างภูมิใจ หากเขาพาคุณไปพบพ่อแม่ของเขา แสดงว่าถึงความจริงใจว่าคุณคือคนสุดท้ายของเขา 4. ผู้ชายที่แนะนำคุณให้กับเพื่อนๆ ของเขา การแนะนำแฟนให้เพื่อนๆ รู้จัก แสดงว่าเขาภูมิใจในตัวคุณ และอยากให้คุณรู้จักกับเพื่อนของเขา 5....

บริจาคที่ดินมูลค่า 100 ล้านบาท สร้างรพ. หวังให้ประชาชนได้รักษา นับว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่มีผู้คนชาวโลกโซเชียลได้ให้ความสนใจและให้ความชื่นชมเป็นอย่างมาก เพราะได้มีผู้ใช้ เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อราชสีห์ จิตอาสา โดยมีการโพสต์ข้อความดังกล่าว โดยระบุเอาไว้ว่า คุณตาคุณยายผู้ปิดทองหลังพระ ที่บริจาคเงินทรัพย์สมบัติและที่ดิน รวมมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท คุณตาคุณยายได้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ด้วยการเก็บผัก ตัดกล้วยขาย จนมาวันหนึ่งคุณตาท่านได้เสียชีวิต แต่คุณงามความดีที่ท่านทั้งสองได้สร้างเอาไว้ เป็นเศรษฐีผู้ใจบุญ และได้ช่วยเหลือคนเป็นจำนวนมากที่มีความลำบาก งานของคุณตา คุณยายชม้อย...

ไม่ชอบพนักงาน “กลับบ้านทันที” ตอนเวลาเลิกงาน? ผู้บริหารตั้งกระทู้ถาม ในชีวิตของเรานั้นต่างมีความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน ในแต่ละช่วงวัยของชีวิต ในช่วงวัยเรียนสิ่งที่เราจะต้องรับผิดชอบคือหน้าที่การเรียน เมื่อพอโตขึ้นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบนั้นคือการทำงาน และการเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง การแบ่งเบาภาระหน้าที่จากพ่อแม่ ในชีวิตการทำงานนั้นทุกๆคนมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของหน้าที่การรับผิดชอบ บางคนทำงาน รักในงานที่ทำ แต่บางคนก็ไม่สามารถเลือกงานที่ตนเองชอบได้ แต่สิ่งหนึ่งในหน้าที่การทำงานนั่นคือ ความรับผิดชอบ ที่จะต้องรับผิดชอบกับงานที่ตนเองได้รับมอบหมายจากหัวหน้างานและทำมันออกมาให้ดีที่สุด และเมื่อถึงเวลาเลิกงานหน้าที่ในวันนั้นก็จะจบลง พร้อมที่จะเริ่มต้นกับวันใหม่ และในวันนี้เราได้มีบทความหนึ่งที่จะนำมาส่งต่อให้กับทุกท่าน พอสำหรับหัวหน้างานบางคนเขาอาจจะไม่ได้คิดแบบพนักงานที่หลายคนนั้นคิด ภาพพนักงานที่รีบออกจากบริษัทเมื่อถึงเวลาเลิกงาน เป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยได้พึงพอใจกับการกระทำดีเท่าไหร่นัก เขาจึงได้มาตั้งกระทู้ถามชาวโซเชียล ถึงกับวิธีรับมือกับสิ่งเหล่านี้ เขาได้ตั้งกระทู้ถามว่า “ผมมีพนักงาน 2 คนที่มักจะออกจากงานในเวลา...

“อยากเรียนต่อ” แต่ไม่มีเงินเพราะ “ครอบครัวฐานะยากจน” วอนผู้ใจบุญร่วมสนับสนุน การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเยาวชนทุกคน บางคนพ่อแม่ส่งเสียให้ร่ำเรียนกลับไม่อยากเรียน ผิดกับบางคนที่แม้จะยากจนแต่กลับมีความตั้งใจ และอยากศึกษาต่อในระดับสูง ทว่าทางไม่มีทุนทรัพย์จะรองรับ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจน เป็นปัญหาที่อยู่คู่สังคมมาอย่างยาวนาน และยากที่จะแก้ไข แม้รัฐบาลจะเคยมีนโยบายเรียนฟรี แต่ค่าอุปกรณ์จิปาถะก็ยังเป็นภาระผู้ปกครอง และหากเรียนในระดับสูงขึ้นไป ค่าเล่าเรียนก็ยิ่งแพงขึ้น วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา สมาชิกเฟสบุ๊คชื่อ ชมรมสองล้อใจบุญ เกื้อหนุนผู้ยากไร้ ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี...