นมต้มกระเทียม รักษา 10 โรคให้หาย

0

นมต้มกระเทียม รักษา 10 โรคให้หาย

เมื่ออายุมากขึ้นโรคต่างๆก็ถามหามากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นเราควรหันมาใส่ใจและดูแลตัวเอง เพราะเมื่อเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนั้น ก็จะทำให้เราห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆได้

วันนี้เรามีสุดยอดยาดีที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้แต่มีอยู่ในครัวของคุณ นั้นก็คือ นมต้มกระเทียม แค่รู้วิธีทำ และทำอย่างถูกวิธี ดื่มอย่างถูกวิธี แค่นี้ก็สามารถ ป้องกันโรคร้ายได้กว่า 10 โรคเลยทีเดียว พูดไปแล้วจะหาว่าโม้ ว่าแล้วไปชมกันเลยค่ะ

นมต้มกระเทียม ที่กำลังนิยมและให้ความสนใจปรุงดื่มกันอย่างแพร่หลาย เพราะคุณค่าของกระเทียมที่มีประโยชน์มากมาย บวกกับความง่ายต่อการปรุงเป็นเครื่องดื่มให้กับเด็กๆและผู้สูงอายุได้ดื่มอุ่นๆ ทั้งเวลาเช้าและก่อนนอน

สำหรับส่วนผสมที่ต้องเตรียมก็มีเพียง 3 อย่างดังนี้

1. น้ำนมจืดขนาดครึ่งลิตร หรือจะเป็นนมโคชนิดใดลดได้ก็ได้แล้วแต่ชื่นชอบ

2. กระเทียม 2 หัวแนะนำให้เป็นกลีบใหญ่ปอกเปลือกและสับให้ละเอียด

3. น้ำเปล่า ปริมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำนมที่เราใส่ลงไป

ขั้นตอนการทำ

– ขั้นตอนแรกให้เราทำโดยการเทน้ำเปล่ากับกระเทียมสับใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นให้ตั้งไฟต้มน้ำจนเดือดจึงเทนมใส่ตามลงไป

– ต้มต่อไปและคนผสมให้น้ำและนมเข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียวกัน

– เคี่ยวส่วนผสมที่อยู่ในหม้อให้เดือดอีกครั้งจากนั้นนำขึ้นจากเตา และปิดไฟ

– พักทิ้งเอาไว้สักครู่หนึ่งให้เสิร์ฟในขณะที่เครื่องดื่มยังอุ่นๆอยู่ เพราะในขณะที่เครื่องดื่มมีความอุ่นนั้นจะได้คุณนะประโยชน์เต็มๆและรสชาติที่ดีที่สุด

น้ำนมต้มกระเทียม จริงๆ แล้วเนื้อกระเทียมนั้น หากทานต่อเนื่องในปริมาณหนึ่งจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะกินสดๆ เลยหรือจะนำมาเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร แต่ไม่ควรกลืนทั้งกลีบ เพราะจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะสาร Allicin ในกระเทียมจะเกิดขึ้นเมือกลีบกระเทียมถูกตัดหรือถูกทำให้ช้ำแล้วเท่านั้น

การดื่มน้ำนมต้มกระเทียม จะสามารถช่วยรักษาและป้องกันโรคต่างๆ ได้ดังนี้

ป้องกันโรคไข้หวัด เมื่อดื่ม 1 แก้วต่อวัน ติดต่อกัน 12 สัปดาห์ จะมีจำนวนวันที่เป็นไข้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม จนถึงไม่เป็นไข้หวัดเลย

รักษา ป้องกันโรคเบาหวาน เมื่อดื่ม 3 แก้วต่อวัน มีผลต่อการลดระดับน้ำตาลกลูโคส ในโลหิต เนื่องจากสาร เอส-อัลลิล-แอล-ซีสเทอีน ในกระเทียมจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุม ระดับน้ำตาลกลูโคสในโลหิตได้ดียิ่งขึ้น

ป้องกัน โรคหอบหืด เมื่อดื่ม1/2 แก้วต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการหอบหืดและเมื่อดื่มอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดจำนวนครั้งที่กิดอาการได้อย่างดีรักษา

ป้องกัน โรคความดันโลหิต เมื่อดื่ม 3 แก้วต่อวัน ต่อเนื่องอย่างน้อย 12 สัปดาห์ พบ ว่ามีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure) ลดลงเฉลี่ย 8.6 มิลลิเมตร- ปรอท และค่าความดันไดแอสโตลิก (Diatolic Blood Pressure) ลดลงเฉลี่ย 7.3 มิลลิเมตรปรอท เมื่อเทียบกับผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูง ที่ไม่ได้รับประทาน

ป้องกัน เส้นโลหิตในสมองแตก เมื่อดื่ม 2 แก้วต่อวัน ช่วยลดระดับโฮโมซีสเทอีนในโลหิตได้ในภาวะการขาดโฟลิก หากรับประทานกระเทียมเป็น ประจำช่วยชะลอการเกิดภาวะแคลเซียมสะสมในหลอดโลหิตหัวใจ ซึ่งภาวะนี้เป็นปัจจัย หนึ่งที่ทำให้หลอดโลหิตแดงหัวใจแข็ง

รักษา ป้องกัน หัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อดื่ม 2 แก้วต่อวัน มีประสิทธิภาพมากช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และช่วยป้องกันการอุดตันในเส้นโลหิตทำให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น และถ้าใช้กระเทียมกับนมไขมันต่ำจะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการแก้ปัญหาการเต้นของหัวใจ

รักษา ป้องกัน โรคดีซ่าน เมื่อดื่ม 1 แก้วต่อวัน ติดต่อกันอย่างน้อย 4-5 วัน จะช่วยกระตุ้นเอนไซม์ และลดไขมันในตับ ช่วยให้ล้างสารสกปรกออกจากร่างกาย และยังช่วยเพิ่มการผลิตน้ำดีให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย

รักษา ป้องกัน ไขมันในโลหิต เมื่อดื่ม 2 แก้วต่อวัน ติดต่อกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและ ไตรกลีเซอไรด์ในโลหิต และยังส่งผลดีเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่กำลังต้องการ ลดความอ้วน-ลดน้ำหนัก เพราะระดับของลิโพโปรตีนในโลหิต หรือคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีจะลดลงและจะเพิ่มระดับของลิโพโปรตีน หรือคอเลสเตอรอลที่ดีในร่างกายของคุณแทน

รักษา อาการเพลียอ่อนล้าง่าย เมื่อดื่ม 1 แก้วต่อวัน อย่างต่อเนื่องจะช่วยกระตุ้นให้ระบบไหล เวียนโลหิตเพิ่มการขนส่งสารอาหารสู่อวัยวะต่างๆ ที่ทำงานหนักและอ่อนล้า โดยเฉพาะสมอง ปอด กล้ามเนื้อ และหัวใจ โดยกระเทียมช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อขจัดของ เสียที่เกิดขึ้นจากใช้งานหนักเป็นเวลานาน ช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้ร่างกาย รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายเมื่อเกิดอาการอ่อนล้า

รักษา โรคลำไส้กระเพาะอักเสบ เมื่อดื่ม 2 แก้วต่อวัน ต่อเนื่องตลอด 3 เดือน จะช่วยรักษาอาการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหารและลดการบีบตัวของลำไส้

เนื่องจากสมดุลย์ของเอนไซม์และระดับ prostaglandin E2 และ prostaglandin F2a ในโลหิตลดลง ทั้งยังช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นในผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะอยู่แล้วอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : เรื่องเด็ดเจ็ดย่านน้ำ

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here