19 เหตุผล ทำไมชีวิตคุณถึง “ไม่ก้าวไปไหน” สักที?

0

19 เหตุผล ทำไมชีวิตคุณถึง “ไม่ก้าวไปไหน” สักที?

การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ เวลาที่คุณยึดติดตัวเองกับสิ่งต่างๆ คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณไม่รู้จะเดินไปทางไหนต่อดี และชีวิตก็กำลังบอกคุณเช่นกันว่า มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องหาความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ซึ่งบ่อยครั้งที่เหล่าคนที่ประสบความสำเร็จก็อาจต้องเริ่มต้นจากสัญญาณเหล่านี้เช่นกัน

และต่อไปนี้เป็น 19 เหตุผลที่ทำให้ชีวิตคุณไม่ก้าวไปไหนสักที่ พร้อมทั้งวิธีแก้ไขเบื้องต้น

1. คุณไม่รู้จักพอ

ถ้าคุณมองไปในสิ่งที่คุณมีอยู่ แล้วคุณรู้สึกทุกข์ใจและต้องการมีมากกว่านี้เยอะๆ งั้นแสดงว่าก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้คุณพอใจได้เลยสิ แม้แต่ปัจจุบันตอนนี้ของคุณเอง แต่หากคุณมองไปแล้วรู้สึกภูมิใจสุขใจกับสิ่งที่คุณมีในวันนี้ แล้วคุณจะรู้สึกเสมอว่าคุณนั้นมีมากพอกว่าที่คุณต้องการแล้ว

2. คุณคิดว่าชีวิตมีข้อจำกัด

ข้อจำกัด เป็นสิ่งที่คุณกำหนดขึ้นมาเองทั้งนั้น หากคุณใช้จินตนาการและความมุ่งมั่นของคุณพุ่งเป้าไปที่จุดหมายที่หวังไว้ ความสามารถของมนุษย์เรานั้นไร้ขีดจำกัด จงเชื่อมั่นไว้เถอะว่าทุกสิ่งที่คุณตั้งใจล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น

3. คุณขาดความมั่นใจ

เราทุกคนมักมีเสียงคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวเองในหัวว่า สิ่งนี้เหมาะสมไหม? สิ่งนี้ถูกต้องหรือเปล่า? หรือสิ่งนี้ดีไหมนะ? แต่ถ้าคุณเอาแต่ลังเลกับสิ่งเหล่านั้นจนเกินไป มันก็ยิ่งจะบั่นทอนกำลังใจคุณเองเปล่าๆ ดังนั้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น คุณต้องบอกกับใจตัวเองให้หาวิธีใหม่ ๆ ในการรับมือและควบคุมจิตใจให้ได้

4. คุณรู้สึกว่าคุณควบคุมตัวเองไม่ได้

ความนิ่งเฉยเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด หากคุณไม่ควบคุมชีวิตของคุณให้ดี ชีวิตจะกลายมาเป็นผู้ควบคุมคุณแทน ดังนั้น เริ่มต้นหักห้ามจิตใจและควบคุมชีวิตคุณ โดยอาจเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ และเริ่มขยายไปที่เรื่องที่ใหญ่ขึ้น ๆ จนสามารถเป็นนายของชีวิตตนเองได้ในที่สุด

5. คุณละเลยปัญหา

การละเลยไม่สนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ทำให้ปัญหาจากเราไปไหน แทนที่จะหลีกหนีปัญหา ลองเปลี่ยนมันเป็นการเผชิญหน้าแล้วหาวิธีแก้ไขมันอย่างชาญฉลาดจะดีกว่านะ

6. คุณหยุดวางแผนชีวิต

ความคิดที่ปราศจากแผนก็เป็นแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ดังนั้น จงหาความศรัทธาของตัวเองให้เจอเพื่อเริ่มต้นตั้งเป้าหมายอีกครั้ง แล้วมุ่งมั่นในการกำหนดแนวคิดและวิธีการที่จะไปให้เป้าหมายนั้นของคุณ

7. คุณไม่ยอมลงมือทำ

แค่รู้ว่าทำอย่างไร นั้นมันไม่เพียงพอ การจะก้าวไปข้างหน้าได้คุณต้องลงมือทำ ลองกำหนดเป้าหมายเล็ก ๆ ที่สามารถทำได้ในทุกวัน และเริ่มต้นขยายเป้าหมายของคุณให้ใหญ่ขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

8. คุณไม่เชื่อมั่นในตัวเอง

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต คือการที่คุณประเมินตัวเองต่ำไป ลองปรับวิธีคิดและพูดกับตัวเองในเชิงบวกเข้าไว้ เชื่อมั่นกับสิ่งที่ทำและรายล้อมตัวเองด้วยผู้ที่เชือมั่นในตัวคุณ

9. คุณชอบคิดแง่ลบ

เป็นเรื่องยากหรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่เราจะได้รับผลดีจากการคิดลบ เพราะส่วนใหญ่แล้วมันกลับก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีด้วยซ้ำไป เมื่อคุณรู้สึกได้ว่าความคิดของคุณเริ่มเป็นไปในทางลบ ให้หยุดความคิดตัวเองทันที แล้วใช้เวลาต่อจากนั้นเพื่อไตร่ตรองว่าสิ่งแย่ ๆ ที่คุณคิดพวกนั้นมันมีผลต่อคุณอย่างไรในอนาคต

10. คุณยังคงทำสิ่งต่างๆ ในแบบที่เคยทำมา

เมื่อคุณก็ไม่คิดจะยอมเปลี่ยนวิธีการ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็ออกมาเหมือนเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย สุดท้ายมันก็ไม่เกิดความก้าวหน้าใดๆ ขึ้นเลย ดังนั้น จงหาจุดด้อยที่สุดในวิธีการทำงานของคุณ แล้วเริ่มเปลี่ยนแปลงมันสักที แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจดีขึ้นหรือแย่ลง แต่คุณจะไม่มีทางยืนอยู่จุดเดิมตรงนั้นอีกต่อไป

11. คุณหยุดพยายาม

เวลาเป็นสิ่งมีค่า อย่าปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย ไม่ว่าคุณจะอยู่สถานะใดหรือกำลังทำอะไรก็ตาม จงเตือนตัวเองทุกครั้งว่าคุณสมควรได้รับโอกาสที่ดีที่สุดในการนำพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ อย่าหยุดพยายาม และลองเริ่มต้นจากเป้าหมายเล็ก ๆ ก็ได้

12. คุณโทษตัวเองว่า คุณมีต้นทุนชีวิตไม่เท่าคนอื่น

แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการตอนนี้ แต่หากคุณลองใช้ความคิดและความสามารถของคุณมาปรับใช้ร่วมกับสิ่งที่คุณมีอยู่ล่ะก็ ถึงแรกเริ่มเดิมทีต้นทุนของคุณจะมีอยู่น้อยสักเพียงใด แต่เชื่อเถอะว่าผลกำไรจากความสามารถของคุณมีมากมายกว่านั้นอย่างแน่นอน ดังนั้นเลิกโทษตัวเองได้แล้ว

13. คุณไม่มีความรับผิดชอบ

เมื่อคุณไม่สามารถรับผิดชอบสิ่งต่างๆ ได้ นั่นก็หมายความว่า คุณไม่สามารถไว้ใจตัวเองให้ทำสิ่งอื่นๆ ได้เช่นกัน จงเตือนตัวเองทุกวันว่าคุณต้องรับผิดชอบทั้งหน้าที่และคำพูดของตัวเอง และจำให้ขึ้นใจเสมอว่า ความรับผิดชอบ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด

14. จิตใจคุณไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เคยมีคนกล่าวว่าร้อยละ 80 ของความสำเร็จนั้นมาจากการที่คุณเผยความสามารถนั้นออกมา ดังนั้น จงอยู่กับปัจจุบันเข้าไว้ และอยู่ในที่ที่คุณจำเป็นต้องอยู่ อย่าได้วอกแวกไปกับสถานการณ์ต่างๆ

15. คุณกลัวความล้มเหลว

อย่าให้ชิวิตต้องหยุดชะงักเพราะความกลัว โปรดจำไว้ว่าถ้าคุณทำดีที่สุดแล้วแต่ยังล้มเหลว ยังไงคุณก็จะได้บทเรียนที่แสนมีค่าเพื่อฝึกฝนคุณให้พร้อมสำหรับความท้าทายนั้นอีกครั้ง ถ้าคุณเอาแต่ให้ความกลัวนำพาชีวิตคุณเดินไปข้างหน้า คุณจะไม่เหลืออะไรเลย นอกจากความเสียใจที่ไม่ได้ลงมือทำ

16. คุณดูถูกตัวเอง

ถึงแม้ เพื่อน คนรู้จัก หรือสมาชิกในครอบครัวคุณจะดูถูกดูแคลนคุณมากสักเพียงไหน โปรดอย่าได้เก็บคำพูดเหล่านั้นมาใส่ใจหรือท้อใจเลย จงโฟกัสที่ตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด แล้วสักวันคุณจะพิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็นเองว่าคุณทำได้

17. คุณขาดความกล้า

บ่อยครั้งที่เราคิดว่า ความกล้าหาญ คือการที่ไร้ซึ่งความกลัว แต่ไม่ใช่เลย เพราะคนที่กล้าหาญทุกคนนั้นล้วนมีความกลัวเหมือนกับเรานั่นแหละ แต่พวกเขาเอาชนะมันได้เพราะพวกเขามีความมุ่งมั่นที่มากกว่าเท่านั้นเอง

18. คุณเอาแต่เฝ้ารอเวลาที่เหมาะสม

คุณไม่จำเป็นต้องรอคำอนุญาตจากใคร เพราะเวลาที่เหมาะสมที่สุดนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก จงเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณมีและสิ่งที่คุณเป็นอยู่ เพื่อทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้ วินาทีนี้

19. คุณเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

นี่เป็นการกระทำที่เสียเวลาอย่างมาก เพราะไม่มีใครที่มีอะไรเหมือนกันทุกอย่าง จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่เราจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นได้ ถ้าจะเปรียบเทียบล่ะก็ จงเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีตนี่แหละว่าคุณก้าวผ่านอุปสรรคมาไกลแค่ไหนแล้ว และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าให้ไกลกว่าเดิมหรือยัง

ขอขอบคุณ : Inc-asean, sumrej

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here