เป็นบ่อยๆ 8 วิธีแก้อาการสะอึก รับรองเห็นผลทันตา

0

เป็นบ่อยๆ 8 วิธีแก้อาการสะอึก รับรองเห็นผลทันตา

เวลาสะอึกแล้วไม่หายสักทีนอกจากจะทำให้รำคาญแล้วหากสะอึกนานๆก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยได้อีกด้วย อาการสะอึกนั้นเกิดจากการหดตัวอย่างฉับพลันของกล้ามเนื้อกระบังลมที่อยู่ระหว่างช่องอกและช่องท้อง ซึ่งการหดตัวนี้ส่งผลให้เกิดการหายใจเข้าอย่างรวดเร็ว แต่ว่าอากาศที่เข้ามานั้นจะถูกกักโดยเส้นเสียงที่จะปิดลงทันทีจากการหดตัวของกล้ามเนื้อกล่องเสียง ทำให้มีเสียงสะอึกตามมา

อาการสะอึกระยะสั้นที่ไม่เกิน 48 ชั่วโมงนั้นเป็นอาการทั่วไป เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และไม่น่าเป็นกังวลใจ แต่ก็ทำให้เกิดความรำคาญและรู้สึกเหนื่อย หลายคนก็มีวิธีแก้อาการสะอึกหลากหลายแบบและเราก็ได้นำมาฝากกันด้วย

1 กลืนน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล

ให้กลืนน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล 1 ช้อนชาเข้าไป อาการสะอึกก็จะดีขึ้น เพราะรสชาติของน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลจะไปทำให้ปุ่มรับรสทำงานหนักขึ้น และช่วยเบี่ยงเบนระบบประสาท แต่คนที่เป็นโรคกระเพาะต้องระวังว่าจะเกิดการระคายเคืองได้

2 กลั้นหายใจ

ควรกลั้นหายใจไว้เพียง 10 วินาทีแล้วค่อยหายใจออก จากนั้นหายใจเข้าลึก ๆ หากยังไม่หายให้ทำซ้ำไปเรื่อยๆ การกลั้นหายใจนั้นจะช่วยให้ร่างกายมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น และส่งผลให้กะบังลมคลายตัว ทำให้การสะอึกลดลง

3 กดที่จุด

การกดที่จุดมี 2 วิธีคือ ใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งบีบตรงเนินเนื้อใต้นิ้วโป้งแรง ๆ หรืออีกวิธีคือกดที่จุดบริเวณร่องของรอยหยักเหนือริมฝีปากบน เพราะการกดที่จุดเป็นการเบี่ยงเบนระบบประสาทจากอาการสะอึก ทำให้หยุดสะอึกได้

5 กินน้ำตาล

เมื่อมีอาการสะอึกให้กินน้ำตาลเข้าไป 1 ช้อนชา เมื่อกินน้ำตาลเข้าไปเกล็ดน้ำตาลจะเข้าไปทำให้หลอดอาหารเกิดการระคายเคือง และส่งผลให้กระบวนการควบคุมการหายใจเกิดการรีเซตตัวเอง ทำให้อาการสะอึกหายไปได้

6 แลบลิ้น

เมื่อสะอึกให้และลิ้นออกมายาวๆ วิธีนี้เป็นการช่วยกระตุ้นช่องว่างระหว่างเส้นเสียงเพื่อช่วยในการหายใจ สามารถทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น เมื่อสามารถหายใจได้สะดวก อาการสะอึกก็จะหายไป

7 อุดหูขณะดื่มน้ำ

การอุดหูขณะที่ดื่มน้ำ และการกลืนน้ำขณะอุดหูจะช่วยให้กระบังลมกลับมาทำงานได้เป็นปกติ และอาการสะอึกจะหายไป

8 กินยาลดกรด

แมกนีเซียมที่อยู่ในยาลดกรดสามารถรักษาอาการสะอึกได้

เชื่อว่าแต่ละคนย่อมต้องมีวิธีที่ใช้ได้ผลกับตัวเอง แต่หากใครไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนในการแก้อาการสะอึกก็ลองเลือกวิธีที่เรานำมาฝากกันดู

เรียบเรียงโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : health kapook, pobpad

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here