พนง.ลางานไปดูแม่ป่วย โดนปรับ 5 พัน เถ้าแก่ให้ออก ต่อมากลับต้องเสียเงิน 9 ล้าน

0

พนง.ลางานไปดูแม่ป่วย โดนปรับ 5 พัน เถ้าแก่ให้ออก ต่อมากลับต้องเสียเงิน 9 ล้าน

สำหรับในวันนี้มีเรื่องราวจากชาวเน็ตท่านหนึ่งได้แบ่งปันมาให้เรา ดูเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า

เรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า.. หลินอุ้ย เป็นพนักงานบริษัทที่ทำงานที่บริษัทแห่งนี้มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว เขาถือว่าเป็นคนที่มีฝีมือมากในระดับหนึ่ง เป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเงียบๆ ซื่อตรง ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมาเขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด รับผิดชอบ มีความอดทนสูง

เขามักจะช่วยเทรนพนักงานใหม่บ่อยๆ ซึ่งทำมาแล้ว 4 รุ่น ตอนนี้เขาเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของทีมเทคนิค หรือที่เรียกง่ายๆว่า ตอนนี้พนักงานทั้งหมดในทีมเกือบทั้งหมดโดนฝึกโดยหลินอุ้ย และมีคนถึง 3 คนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ว่าอำนวยการ หลินอุ้ยนั้นเป็นคนที่ไม่คิดอะไรมาก เขาเอาแค่ฝีมือที่ตนเองมีทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัวได้ก็เพียงพอแล้ว

แต่หลังในช่วงวันปีใหม่ที่ผ่านมา ทางตอนใต้นั้นมีหิมะตกหนักมาก แม่ของหลินอุ้ยก็ล้มป่วยลง เขาใจร้อนมากก็เลยขอลางาน 3 วันกับเถ้าแก่เพื่อที่จะกลับไปดูแลแม่ของเขา ถ้าแม่อาการดีขึ้นเขาก็จะรีบกลับมาทำงานในทันที

แต่เถ้าแก่แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้าและบอกว่า คุณทำแบบนี้ทำให้ผมลำบากอีกแล้วนะ อีกไม่กี่วันก็จะมีลูกค้ารายใหญ่เข้ามาดูงานที่โรงงาน ผมต้องการให้คุณอยู่ คุณจะต้องมาแสดงงานการผลิตหลักให้เขาดู แถมออเดอร์ลูกค้ารายนี้ใหญ่มากๆ จะต้องใช้ฝีมือของคุณ

แต่หลินอุ้ยก็อยากตอบกลับไปว่า

“เถ้าแก่ครับ ไว้วางใจลูกน้อง 2 คนของผมได้เลย ผมเป็นคนฝึกเองกับมือ ผมรู้ว่าเขาทำได้ ไม่มีปัญหาแน่ๆๆ แม้ว่าพวกเขาจะยังเด็กก็ตาม แต่เขาก็มีความกระตือรือร้น ครั้งนี้ผมลางาน 3 วัน เถ้าแก่ก็อีก 3 วันถึงจะมาถึงไม่ใช่หรอครับ ผมน่าจะกลับมาทันนะ”

แม่ของผมปีนี้ก็อายุได้ 80 ปีแล้ว แทบไม่ค่อยได้เจอท่านมาหลายปี ในปีนี้ผมขอลาไปหาแม่ก่อนละกันนะครับ
แล้วเถ้าแก่ก็ยอมเซ็นอนุญาตแบบไม่ยอมเสียหน้า

หลินอุ้ยรีบกลับไปหาแม่ในทันใด เมื่อถึงเขาเห็นแม่นอนล้มป่วยอยู่ที่ข้างเตียง ก็ทำให้ตัวเองนั้นรู้สึกผิดและสงสารแม่เป็นอย่างมาก ในช่วงนั้น เถ้าแก่ก็โทรตามจิกถึง 3 ครั้ง โดยไม่ถามถึงอาการแม่ของเขาเลยสักนิด

ทุกครั้งที่โทรมาจะถามว่าเมื่อไหร่จะกลับสักที เขาก็เลยต้องให้น้องสาวมาดูแลแทน เลยเสียเวลาไปอีก 1 วัน และเขาก็กลับช้าไป 1 วัน

ตอนที่หลินอุ้ยไปถึงโรงงาน เถ้าแก่ปิงก็เข้ามาดูงานแล้ว เถ้าแก่เห็นหลินอุ้ยกระหืดกระหอบมา ก็ทำหน้าไม่สนใจ รุ่นน้อง 2 คนของหลินอุ้ยสาธิตและแนะนำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ตอนนั้นเองเถ้าแก่ปิงถามว่า จะสามารถพัฒนาเทคนิคนี้ ให้ลดต้นทุนลงอีก 2% ได้มั้ย รุ่นน้อง 2 คนก็บอกว่าได้

เถ้าแก่เองก็รีบตอบว่า : ทำได้ครับ ทำได้ พนักงานช่างเทคนิคของเราเป็นบุคลากรที่มีค่าของบริษัท โรงงานอื่นทำไม่ได้แบบเราหรอกครับ พวกเรารับรองว่าทำได้แน่นอน หลินอุ้ยได้ยินก็ร้อนใจ คิดในใจ : ถ้าพัฒนาการผลิตไปเป็นแบบนั้น วัตถุดิบอาจจะลดลงไปเล็กน้อย แต่จะกระทบกับกระบวนการผลิตมาก ถ้าแย่มากๆ อาจจะถึงขั้นผลิตภัณฑ์บกพร่อง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็จะขายไม่ได้

หลินอุ้ยจึงรีบเดินไปข้างหน้า แล้วแย้งว่า : “ถ้าทำแบบนั้นจะไม่ได้… ”

โดยไม่รอให้หลินอุ้ยพูดจบ เถ้าแก่ก็รีบดันเขาออกมา : คุณไม่เข้าใจงานด้านเทคนิค อย่างเข้ามายุ่ง พอหลินอุ้ยโดยไล่ออกมาต่อหน้าคนอื่น แถมโดนหาว่าไม่เข้าใจตัวงาน เขาก็หน้าแดงรู้สึกผิดหวังพอเถ้าแก่ปิงกลับไป

เถ้าแก่ก็โมโหหนัก : หลินอุ้ย คุณทำอย่างนี้เป็นการจงใจหักหน้า แถมคุณหยุดเลยวันลามา 1 วัน ผมจะหักเงินคุณ 5,000 แล้วก็หักโบนัสอีก 20% หลินอุ้ยได้ยินก็พูดอะไรไม่ออก รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว

หลินอุ้ยเดินตามเถ้าแก่ไปในออฟฟิศ พร้อมขอร้อง : หักโบนัส 20% ผมรับไม่ได้ แม่ผมเพิ่งเข้าโรงพยาบาล เถ้าแก่พูดแบบรำคาญ คุณดูเองละกัน คุณบอกว่าทำไม่ได้ แต่รุ่นน้องคนมีความสามารถมากกว่าคุณแล้ว ถ้าคุณรับไม่ได้ก็ออกไป รุ่นน้องนายทำแทนนายได้ นายออกไปก็มีคนมากมายรอเข้ามาเสียบ

ได้ยินอย่างนั้น หลินอุ้ยก็เข้าใจ พอมีคนทำงานได้ เถ้าแก่ก็พร้อมจะเตะเขาทิ้ง ตอนแรกเขาคิดว่าจะตั้งใจทำงานที่นี่ไปจนแก่ แต่วันนี้เถ้าแก่ทำให้เขาต้องคิดใหม่

หลินอุ้ยกลับไปถึงหอพัก ก็โทรหาเถ้าแก่ปิง :ที่เถ้าแก่ผมรับปากว่าจะแก้ทางเทคนิคให้เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะมันอาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย นึกไม่ถึงว่าเถ้าแก่ปิงจะเชิญหลินอุ้ยออกมาพบทันที : คุณเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญมานาน ตอนนั้นผมตั้งใจทดสอบเทคโนโลยีของบริษัทและความซื่อสัตย์ คุณพูดถูก ผลิตภัณฑ์อาจจะออกมาผิดพลาด แต่คนทำงานด้านเทคนิคไม่ควรจะพูดไปเรื่อย

เถ้าแก่ปิงบอกหลินอุ้ยว่า : ผมอยากทำโรงงานของตัว ผลิตผลิตภัณฑ์ของตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปสั่งเอาจากบริษัทอื่น คุณมาช่วยผมทำงานมาเป็นผู้จัดการโรงงาน ผมให้รายได้คุณปีละ 2 ล้าน คุณมีความสามารถ คุณเสนอเงินเดือนมาเองก็ได้ ถ้ามันเหมาะสม ผมก็จะโอเค เพราะผมเชื่อใจคุณ

เถ้าแกปิงเป็นคนรอบคอบ : ผมเตรียมโรงงานไว้แล้ว คุณสามารถฟอร์มทีมมาทำงานได้เลย แล้วล็อตนี้มูลค่า 90 กว่าล้าน พวกเราทำกันเอง คุณกลับไปก่อน ไม่ต้องกระโตกกระตาก เตรียมตัวเงียบๆ ได้โบนัสแล้วค่อยออกมา เงินโบนัส 20% ที่คุณโดนหักผมจะเพิ่มให้เอง พอถึงปลายปีหลินอุ้ยได้รับโบนัส ก็ยื่นใบลาออกทันที

หลินอุ้ยเข้าไปคุยกับลูกน้องสนิทๆไม่กี่คนเพื่อชวนไปร่วมงาน เถ้าแก่ปิงได้รับของล็อตแรก ก็เชิญให้เถ้าแก่มาลองดู รุ่นน้องสองคนก็คิดว่าตนเองทำผลงานออกมาได้ดี แต่สุดท้ายกลับมีข้อผิดพลาด เถ้าแก่ปิงจึงไม่เซ็นต์รับของ เถ้าแก่ถึงกลับหน้าซีด ล็อตนี้เงิน 9 ล้านบินหายไปต่อหน้า

เถ้าแก่รีบโทรหาหลินอุ้ย แต่หลินอุ้ยไม่พูดอะไร เอาหูโทรศัพท์หันไปทางอื่น ทั้งโรงงานบรรยากาศอึมครึม

เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า มีคนซื่อมากมาย ที่ใช้ฝีมือทำงานเพื่อให้ได้เงินมากินข้าว ถ้าไม่มีพวกเขาเป็นชิ้นส่วนเล็กมารวมกัน หากปราศจากเม็ดรากฐานก็จะไม่แข็งแรง เคารพพวกเขา พวกเขาก็จะตอบแทนคุณ

เขียน / เรียบเรียงส่วนหนึ่งโดย : Postsara

ขอขอบคุณ : ไลค์เก้อร์

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here