หลังดื่มน้ำอัดลมไป 40 นาที เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง
น้ำอัดลม ในที่นี้หมายถึงน้ำอัดลมเติมน้ำตาล ซึ่งนิยมดื่มกันมากๆ เรียกได้ว่าติดอันดับโลกเลยก็ว่าได้ ยืนยันทางโภชนาการแล้วว่าเครื่องดื่มประเภทนี้คือสาเหตุใหญ่ของปัญหาเกี่ยวกับโ ร ค อ้ ว น ที่คนทั้งประเทศกำลังประสบปัญหากันอยู่
ในวันนี้ลองไปดูกันซิว่าภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากที่เราดื่มน้ำอัดลมไป 1 กระป๋อง จะเกิดอะไรกับร่างกายของเราบ้าง เรื่องนี้มีคนทำวิจัยเอาไว้ เห็นผลวิจัยคิดยังไง คิดจะเดินต่อหรือว่าจะเลิกดื่ม อยู่ที่ตัวเรา เรื่องนี้ไม่มีใครคิดจะห้ามอยู่แล้ว
น้ำอัดลมขนาด 12 ออนซ์ ปรากฏว่า 1 กระป๋องนั้นมีน้ำตาลสูงถึง 10 ช้อนชา หรือประมาณ 50 กรัม หลายคนอาจจะเข้าใจกับสิ่งที่ร่างกายได้รับนั่นก็คือ พลังงานจากน้ำตาลซึ่งเทียบเท่ากับ 200 kcal
แต่อันที่จริงไม่ใช่เพียงเท่านั้น การนับว่ามีพลังงานเท่าไหร่ยังไม่พอ ควรดูจากเมแทบอลิซึม ที่เกิดจากการดื่มน้ำอัดลมพวกนี้เข้าไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางนักวิจัยอังกฤษที่ชื่อว่า นิราจ นาอิก (Niraj Naik) กับวาเด เมเรดิธ (Wade Meredith) ได้ทำการศึกษาวิจัยโดยให้ข้อสรุปว่า
การดื่มน้ำอัดลม ก่อให้เกิดกระบวนการต่างๆในร่างกายมากมาย อย่าไปคิดแค่เรื่องพลังงานเพียงอย่างเดียว
ซึ่งตามปกติแล้วหากเราดื่มน้ำหวานอย่างเดียวไม่มีการปรุงแต่งเลย น้ำตาล 1 ช้อนชานั้นอาจจะทำให้เรารู้สึกเวียนหัวได้ แต่การดื่มน้ำอัดลมมีการเติมฟอสฟอริกเข้าไปด้วย ซึ่งเจ้าฟอสฟอริกช่วยให้การดื่มน้ำอัดลมง่ายขึ้น ผลที่ตามมาก็คือ
หลังดื่มน้ำอัดลมไป 20 นาที
การดื่มน้ำอัดลมแบบมีน้ำตาล จะทำให้น้ำตาลในโลหิตพุ่งสูงขึ้นในช่วงระยะเวลา 20 นาที ซึ่งทำให้น้ำตาลในโลหิตเพิ่มขึ้นอย่างสูง ส่งผลให้ร่างกายนำเอาพลังงานส่วนเกินที่ล้นเข้าไปในร่างกายสะสม กลายเป็นไขมัน นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใครมีพุง
หลังดื่มน้ำอัดลมไป 40 นาที
ร่างกายจะดูดซึมคาเฟอีนที่มีอยู่ในน้ำอัดลมเข้าไปจนหมด ทำให้รู้สึกว่ารูตาของเราเปิดกว้างขึ้น ความดันโลหิตก็จะสูงขึ้น ทำให้รู้สึกว่าสมองของเราจากที่มีอาการอ่อนเพลียก็หายไป
5 นาทีหลังจากนั้น จะทำให้เกิดอาการโหยต้องการน้ำตาล ส่งผลให้เกิดการขับแร่ธาตุ ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม แมกนีเซียมออกมาทางปัสสาวะนั่นเอง
ซึ่งกลไกทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การดื่มเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง เสี่ยงต่อการเกิด โ ร ค หั ว ใ จ แถมด้วยเ บ า ห ว า นประเภทที่ 2 สำหรับใครที่ดื่มน้ำอัดลมมากๆ หากดื่มวันละ 2 กระป๋องทุกวันจะทำให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องของการมีพุง อ้วนลงพุง โ ร ค อ้ ว น สูงถึง 26 เปอร์เซ็นต์
โดยมีข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกสรุปว่า แต่ละปีมีคนเกิดปัญหา ล้มหายจากไป เกี่ยวกับเรื่องนี้สูงถึง 184,000 คน เขาถึงได้ออกมาแนะนำให้ลดการดื่มน้ำอัดลมลงไปบ้างนั่นเอง
ภาพ / เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsara
ขอขอบคุณ : ข้อมูลองค์การอนามัยโลก, นิราจ นาอิก (Niraj Naik) กับวาเด เมเรดิธ (Wade Meredith) : ผู้ทำวิจัยน้ำอัดลม
ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทุกกรณี