เผย “สูตรอาหารทำขายช่วงสงกรานต์” ลงทุนน้อยกำไรเป็นกอบเป็นกำ

0

เผย “สูตรอาหารทำขายช่วงสงกรานต์” ลงทุนน้อยกำไรเป็นกอบเป็นกำ

เมื่อพูดถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆมักจะมีวันหยุดยาว หากใครไม่ได้ไปไหนแล้วคิดอยากจะมีรายได้เสริมที่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ขอแนะนำสำหรับคนที่อยากขายของในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ด้วยเมนูอาหารบ้านเรา ใครที่อยากเตรียมโกยเงินเตรียมตัวให้พร้อม เรามีเมนูเด็ดๆมาฝากทุกคนกันเป็นเมนูที่ง่ายๆขายได้กำไรดีแน่นอน

1. ข้าวผัดกะเพรา

เมนูผัดกะเพรานอกจากเป็นอาหารตามสั่ง หรืออาหารจานเดียวสุดฮอตในวันทั่วไปแล้วยังเป็นอาหารยอดนิยมทำขายวันสงกรานต์อีกด้วย วันนี้ขอยกตัวอย่างเมนูผัดกะเพราหมูย่างสูตรจากคุณ jin leng สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาไว้เป็นแนวทาง ซึ่งหมูย่างสูตรนี้ใช้แบบสำเร็จรูปเลย หรือใครจะซื้อหมูมาหมักแล้วย่างเองก็ได้ค่ะ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเหมือนผัดกะเพราทั่วไป เพียงแต่เพิ่มพริกหอมเพื่อให้กะเพราเรามีความต่างจากเจ้าอื่น ทั้งนี้จะดัดแปลงใส่เนื้อสัตว์อื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน

ส่วนผสม

– พริกขี้หนู (ปริมาณตามชอบ)

– พริกหอม (ปริมาณตามชอบ)

– กระเทียม

– น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

– หมูย่าง (ซื้อจากร้านส้มตำ)

– ถั่วฝักยาวหั่นเฉียง

– น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ถึง 1 ช้อนชาครึ่ง

– ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา (หรือน้ำปลา)

– ใบกะเพราแดง (เด็ดเป็นใบ)

– ข้าวสวย

– ไข่ดาว

วิธีทำ

1. โขลกพริกขี้หนู พริกหอม และกระเทียมเข้าด้วยกัน

2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม ใส่หมูย่างและถั่วฝักยาวลงไปผัด

3. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำตาลทราย และซอสปรุงรส เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย สุดท้ายใส่ใบกะเพราแดงลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและไข่ดาว

2. ข้าวไข่เจียว

เมนูข้าวไข่เจียวเป็นอาหารอีกอย่างที่ฮอตสุด ๆ ในช่วงวันสงกรานต์ สำหรับวันนี้เราจะขอยกตัวอย่างเมนูข้าวไข่เจียวลาบไก่สับดู เปลี่ยนจากข้าวไข่เจียวเดิม ๆ ดูบ้าง เป็นสูตรจากคุณ Megamovie สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ผสมผงลาบกับไก่ใส่ลงไปตีผสมกับไข่ไก่ พอทอดไข่เสร็จก็โปะข้าวได้เลยค่ะ เสิร์ฟกับซอสพริกก็อร่อยเหาะค่ะ รับรองขายดีแน่นอน

ส่วนผสม

– ผงปรุงลาบ-น้ำตก 1/2 ซอง

– เนื้ออกไก่สับ

– ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

– ไข่ไก่ 3 ฟอง

– น้ำมันพืช

– ผักชี (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ

1. ผสมผงลาบกับเนื้ออกไก่สับหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที (ถ้าชอบรสจัดใส่ผงลาบเยอะ ๆ ได้ครับ ไม่เผ็ดมาก)

2. เหยาะซอสปรุงรสลงในถ้วยไข่ไก่แล้วตีไข่ไก่ให้เป็นเนื้อเดียวกันและขึ้นฟองฟู

3. เทเนื้อไก่สับปรุงรสลงไปผสมในชามไข่ไก่แล้วคนให้เข้ากัน

4. ตั้งกระทะไฟฟ้าใช้ไฟแรงใส่น้ำมันพืชกะพอท่วมไข่ พอน้ำมันร้อนแล้วเทส่วนผสมไข่ลงในกระทะได้เลย ใช้ตะหลิวโกยน้ำมันมาตรงกลางไข่เจียวเพื่อให้สุกทั่ว ๆ ก่อนพลิกด้านไข่ ตักโปะข้าว โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ

3. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

ข้าวเหนียวหมูปิ้งหมูย่างก็กินได้ทุกวัน แม้แต่วันสงกรานต์คนเล่นน้ำก็ยังซื้อกินเลยค่ะคุณขา ใครสนใจอยากทำขายเราขอแนะนำสูตรจากคุณเนรัญชลา จากเพจเฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา มาพร้อมสูตรหมักหมู วิธีการปิ้งหมู และสูตรน้ำจิ้มแจ่ว เตรียมข้าวเหนียวรอไว้เลยค่ะ ขายดีแน่นอน

ส่วนผสม

– เนื้อหมู (ส่วนสะโพกหรือสันนอก) 1 กก.

– รากผักชี 25 กรัม

– กระเทียมไท ย (แกะเปลือก) 2 หัว

– พริกไท ยเม็ด 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา

– น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม

– หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง + 1/2 ถ้วยตวง

– ซีอิ๊วดำ 3 ช้อนชา

– ซีอิ๊วขาว 8 ช้อนโต๊ะ

– ซอสปรุงรสฝาเขียว 6 ช้อนโต๊ะ

– แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

– ไข่แดง 1 ฟอง

– น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ

– ไม้สำหรับเสียบหมู

วิธีทำ

1. แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 ซม. กว้างประมาณ 4-5 ซม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ (หรือหั่นตามความถนัด)

2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไท ยเม็ดจนละเอียดเข้าด้วยกัน

3. ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง (ส่วนกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยเก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง) ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป

4. หลังจากหมักหมูทิ้งไว้ครบเวลาแล้ว นำเนื้อหมูออกจากตู้เย็นมาเสียบด้วยไม้

5. นำน้ำที่เหลือจากหมักหมูไปผสมกับกะทิที่เหลือให้เข้ากัน เตรียมไว้

6. เปิดเตาสำหรับปิ้งหมูให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นนำหมูขึ้นปิ้งบนเตา (หมั่นคอยดู) พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง แล้วใช้แปรงจุ่มส่วนผสมกะทิที่ผสมไว้ทาให้ทั่วด้านบน พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับมาทาซอสอีกครั้ง ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน (แต่ไม่ควรปิ้งให้แห้ง เพราะน้ำในเนื้อหมูจะระเหยไปกับความร้อน ทำให้หมูเหนียวและแข็งค่ะ)

4. ข้าวเหนียวหมูแดดเดียว

สำหรับใครที่อยากขายข้าวเหนียวหมูแต่ไม่มีเตาปิ้งไม่ต้องไปซื้อนะคะ ขอแนะนำเมนูข้าวเหนียวหมูแดดเดียวทอดสูตรจากคุณ EcoGo สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก่อนอื่นจับเนื้อหมูไปหมักและตากแดดให้แห้งก่อนค่ะ ถ้าแดดไม่มีก็เอาไปอบแทนได้ค่ะ ทอดเสร็จเนื้อหมูจะฉ่ำหน่อยค่ะ กินกับข้าวเหนียวฟินแน่นอน

ส่วนผสม

– คอหมู 500 กรัม (คอหมูไม่ใช่สันคอหมูนะครับ คอหมูที่เขาใช้ทำคอหมูย่าง บางที่ใช้สันคอ แต่สูตรนี้เน้นนุ่ม ๆ หนึบ ๆ ถ้าไม่ชอบมัน ๆ ให้แล่เอาส่วนมัน ๆ ออกมา เนื้อส่วนนี้จะเห็นมันแทรกในชั้นเนื้อ ทำให้นุ่มและไขมันนำพารสเครื่องปรุงแทรกเข้าชัดเจนมาก)

– สับปะรดคั้นน้ำให้ได้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

– น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

– ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ

– น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

– ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

– พริกไท ย 1/2 ช้อนชา

– น้ำมันพืชสำหรับทอด (ทอดแบบ Deep Fried น้ำมันท่วม ๆ นะครับ อย่าขี้เหนียว)

วิธีทำ

1. หั่นคอหมูเป็นเส้นยาวประมาณ 1 เซนติเมตร (เคล็ดลับ : อย่าหั่นหมูบางมาก เพราะถ้าบางเวลาทอดจะแห้งแข็ง และควรหั่นตัดขวางลายเส้นเนื้อหมู อย่าหั่นตามลายเส้นเนื้อ เพราะถ้าหั่นตามเส้นหมูจะเหนียวมาก)

2. นำคอหมูหมักกับน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา ซอสปรุงรส พริกไท ย และน้ำสับปะรด) แล้วขยำให้เข้ากัน

3. วางหมูที่หมักแล้วลงบนถาด โดยกระจายอย่าให้เนื้อหมูซ้อนกัน รักษาระยะห่างกันไว้สักนิดจะได้แห้งเหี่ยวกันไว ๆ

4. นำไปตากแดดโดยเลือกพื้นที่ที่มีแดดส่องทั้งวันจนแห้ง (ถ้าแดดดี ประมาณ 4-5 ชั่วโมงกำลังได้ที่ / ถ้าแดดอ่อน แขวนลืมไว้ได้เลย เย็น ๆ เก็บทีเดียว / ถ้าแดดอ่อนจัดมาก ตอนเย็นเนื้อหมูยังชุ่ม ๆ อยู่ให้เอาไดร์ร้อนเป่าผมช่วย / ถ้าเริ่มแขวนกลางคืน แนะนำให้นำไปตากตอนเช้าของอีกวัน)

5. ถ้าไม่อยากตากแดดให้เอาชิ้นหมูเรียงบนถาดให้เรียบร้อย อย่าทับกัน อย่าซ้อนกัน เปิดอบใช้ไฟบนกับลมร้อนที่อุณหภูมิ 70-120 องศาเซลเซียส เปิดวอร์มเตาได้ที่แล้วให้นำเข้าเตาอบ ดูให้น้ำในเนื้อหมูระเหยจนชิ้นเนื้อเริ่มแห้ง

6. ตั้งกระทะ กะน้ำมันให้ท่วมชิ้นหมู นำไปตั้งไฟกลางค่อนไปทางอ่อน รอจนน้ำมันร้อน จากนั้นใส่หมูลงทอดให้พอเหลืองจนผิวเริ่มแห้ง แล้วช้อนขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันไว้ ให้ความร้อนทำงานต่ออีกสัก 2-3 นาที สีจะเข้มขึ้นเล็กน้อย ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

ขอบคุณข้อมูลจาก : liekr

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here