การใช้ชีวิต ทำงานให้เป็น สำคัญกว่าคว้าใบปริญญาแปะฝาบ้าน

0

การใช้ชีวิต ทำงานให้เป็น สำคัญกว่าคว้าใบปริญญาแปะฝาบ้าน

ไม่ว่าคุณจะเรียนสูงหรือจบมาจากสถาบันดีแค่ไหน แต่มันไม่ใช่หลักสำคัญ การทำงานให้เป็น นั่นคือ ประเด็นที่สำคัญที่สุด ประเด็นหลักที่สำคัญอย่างแรกในเรื่องนี้คือ การเรียน ต่อให้คุณ จะเรียนสูงมาแค่ไหน ไม่ใช่หลักสำคัญ ถ้าจะให้มองนั่นคือ การศึกษาเล่าเรียน การศึกษานั้นเป็นเรื่องของคนนั้นเพียงคนเดียว ถึงแม้คุณจะเรียนดีแค่ไหน คุณจะเรียนแย่ขนาดไหน สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวคุณเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ก็ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้นอกจากตัวของคุณเอง

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เรียนจบมานั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย ผลการเรียนออกมาดีก็ย่อมมีแนวโน้มว่าจะทำงานได้เก่ง นั่นก็เป็นเพราะว่า กว่าที่ควรจะใช้เวลาเรียนจนจบ คุณต้องฝึกฝนตัวคุณเองมาหลากหลายรูปแบบ การฝึกฝนในช่วงที่คุณเรียนอยู่นั้น เป็นเพียงการเรียนรู้ในขอบเขตของสมมติฐานที่ว่า ช่วยฝึกการเรียนรู้ ถ้าถูกก็แล้วไปแต่ถ้าคุณผิดนั้น ในระหว่างที่คุณฝึกฝนในการเรียนนั้นเมื่อเวลาที่คุณทำผิดคุณยังสามารถกลับไปแก้ไขใหม่จนกว่ามันจะถูกและดีขึ้นได้ การง่ายๆของชีวิตนักศึกษา ว่าใครที่เคยเรียนหนังสือมาจะรับรู้ได้กันทุกคน

ถ้าสังเกตดีๆแล้วจะเห็นได้ว่า ช่วงที่เราทำผิด ในเวลาที่คุณกำลังศึกษาอยู่ บทลง โทษเพียงอย่างเดียวที่คุณจะได้รับ เกรดเฉลี่ยหรือผลการเรียนที่ออกมาในทางที่ไม่ดี ให้คุณก็ติด f ที่จะต้องลงเรียนใหม่กับเด็ ก บางคนก็อายเชื่อต้องลงเรียนใหม่ แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับการเรียนใหม่กับรุ่นน้อง

ชีวิตในวัยเรียนมีเรื่องให้เครียดปวดหัวอยู่ไม่กี่เรื่อง นอกนั้นก็เป็นเรื่องที่สนุกสนาน ตามประสาวัยรุ่นที่อยู่ต่างถิ่นไม่มีผู้ปกครองดูแล บางคนถึง กับไม่อยา กจบออกมาจากมหาวิทยาลัย เพราะเนื่องจากว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยนั้นสนุกมาก แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจบและลากันออกมา ก็อยู่ที่ว่าจะจบออกมาดีหรือไม่ดี จะพิสูจน์ได้ก็ต่อเมื่อในช่วงชีวิตวัยทำงาน

ประเด็นที่สอง คือ เรื่องการทำงาน

การทำงานนั้น คือ บทพิสูจน์ของคุณภาพการเรียน คนนั้นเรียนมามีคุณภาพแข็งแค่ไหน วัดกันในเรื่องการทำงานได้เลย ผลของงานที่ทำนั้นมีผลสัมฤทธิ์ออกมาแล้วเกิดคุณภาพ คุณค่า หรือคุณนะประโยชน์ต่อคนอื่นมากน้อยเพียงใด นั่นแหละคือ คุณภาพ จะเห็นได้ว่าตอนที่เรียนนั้นไม่มีการวัดผลการเรียนแบบนี้เลย ในช่วงการเรียนนั้น ไม่มีการวัดผลการเรียนแบบนี้เลย การเรียนเป็นอะไรที่ง่ายแต่ถ้าสอบไม่ผ่ านก็แค่ลงเรียนใหม่ แต่ถ้าเราทำงานแล้วไม่ผ่ านนั้น มีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียเงิน เสียใจที่ถูกเจ้านายด่า เพื่อนร่วมงานขาดความนับถือ เชื่อถือ ทั้งหมดที่พูดมานี้มันคือความจริง โลกแห่งความเป็นจริงที่แสนเจ็บ ปวด เมื่อคนทำอะไรผิดพลาด

ในขณะเดียวกันก็ช่างเป็นโรคที่หอมหวานสำหรับคนที่ทำงานสำเร็จ คุณจะเกิดคุณค่าในตัวเองต่อผู้อื่นในวงกว้าง ถ้าสังเกตให้ดีแล้ว ชีวิตในวัยเรียนคือ ช่วงชีวิตที่อยู่ในโลกของจินตนาการ แต่ในชีวิตการทำงานนั้นมันคือ โลกแห่งความเป็นจริง คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหลายๆคนเชื่อกันว่า ถึงแม้เราจะเรียนจบจากช่วงวัยเรียนแล้ว ต้องหาอะไรเรียนรู้อยู่เสมอ กลับกลายเป็นว่าพอเรียนจบในช่วงวัยเรียนแล้ว ศึกษาแบบจริงๆจังๆในระดับสูงขึ้นไป คือระดับมหาวิทยาลัยซึ่งจะต้องเรียนรู้ทุกลมหายใจ เพราะมันจะมีผลได้ผลเสียในทุกครั้งที่ลงมือทำอะไรก็ตาม คุณจะต้องศึกษาต่อไป

ส่วนคนที่มีชีวิต ล้มเหลวมีเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้นคือ การไม่รู้จักเรียนรู้ที่จะแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้ถูกต้องได้ ไม่แก้ไขอะไรเลยให้ดีขึ้น มักทำความผิดซ้ำๆจนหาคุณภาพไม่ได้ แต่ในที่สุดคุณก็จะไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือ ในที่สุดคุณจะพบเจอกับความ ล้ม เหลว

ขอบคุณข้อมูลจาก : ธรรมดีได้ดี

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here