“ทรายในกำมือ” เรื่องเล่าให้ข้อคิด สำหรับการใช้ชีวิตคู่ที่ยั่งยืน

0

“ทรายในกำมือ” เรื่องเล่าให้ข้อคิด สำหรับการใช้ชีวิตคู่ที่ยั่งยืน

สวัสดีเพื่อนๆทุกท่านในวันนี้เราได้มีมีเรื่องเล่าสอนใจที่ได้ให้ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตไว้มากมาย สำหรับการใช้ชีวิตคู่ของคนสองคนที่ให้ยืนยาวและมีความยั่งยืน

โดยได้มีครอบครัวหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังจะออกเรือน แม่ของเขาจึงได้พานางมาไหว้พระเสี่ยงเซียมซีที่วัดแห่งหนึ่ง จากนั้นก็มากราบคารวะพระอาจารย์เซน ผู้ที่เป็นแม่ได้ถามว่า

“ลูกสาวของตนกำลังจะแต่งงาน หากแต่งงานไปแล้วเขาจะมีความสุข ชีวิตรักของนางจะหวานชื่นราบรื่นดีหรือไม่”

พระอาจารย์ฟังคำถามและยิ้ม จากนั้นพูดหญิงที่เป็นแม่ไว้ว่า

“โยมลองกำทรายสัก 1 กำมือแล้วกำไว้ในมือ”

อาจารย์เซ็นได้หันไปถามหญิงสาวว่า

“โยมได้เห็นทรายในมือแม่ของโยมไหม ตอนนี้มันเป็นอย่างไร”

หญิงสาวคนนั้นได้ตอบกลับไปว่า “มันเป็นพูนๆเต็มฝ่ามือ ดูสมบูรณ์ดีเจ้าค่ะ”

อาจารย์เซนได้ลองหันไปถามแม่แล้วบอกว่า “โยมลองบีบมือกำทรายให้แน่นๆดูสิ”

ผู้ที่เป็นแม่ทำตามและได้ลองบีบทรายในมือจนแน่น ทำให้ทรายที่อยู่ในมือนั้นหลุดร่วงออกมาจากร่องมือของนาง เมื่อคลายมือออกจากทรายที่เต็มกำมือเหลือเพียงอยู่นิดเดียวเท่านั้น

หญิงสาวมองดูทรายในมือแม่แล้วพยักหน้าเหมือนเข้าใจ พระอาจารย์เซนพูดอย่างเมตตาว่า

“ใครๆก็อยากมีชีวิตรักที่หวานชื่นสมบูรณ์ หากปรารถนาเช่นนั้นจริง ก็ต้องเรียนรู้ศาสตร์และศิลป์ของระยะห่าง จงเห็นความรักเป็นเหมือนทรายในกำมือ ถ้าอยากเห็นทรายพูนมือสมบูรณ์ดี ก็อย่าไปบีบไปอัดมันแรงๆ ต้องถืออย่างถะนุถนอม รักษาระยะห่างให้พอดีๆ ไม่กำแน่นเกินไป บีบ อัดจนร่วงหล่นหายไปจากกำมือ”

นิทานเซนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…รักษาระยะห่างให้พอดี พระอาจารย์เซนเปรียบเทียบชีวิตรักว่า เหมือนทรายในกำมือแม้ใจอยากจะกำมันไว้แน่นๆ แต่ยิ่งกำแน่น ทรายก็ยิ่งหลุดไหลออกไป หายไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเรากำพอหลวมๆ ทรายก็อยู่เต็มฝ่ามือเหมือนเมื่อตอนที่กำขึ้นมาใหม่ๆ การรักษาระยะห่างในขนาดที่พอดี

การดำเนินชีวิต หากสนิทสนมกับใครมากเกินไป ก็มักมีเรื่องกระทบกระทั่งกัน ขัดใจกันเป็นธรรมดา หากห่างเกินไป ก็ไม่มีเรื่องคุย ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ชีวิตหาความสุขไม่ได้ กับญาติมิตรก็เช่นกัน กับคนรักก็ยิ่งเป็นเช่นนี้

ชีวิตรักจะยืนยง ก็ต่อเมื่อคู่รักต่างมีธรรมะในใจ เป็นความรักที่มีสติ มีปัญญา มองเห็นความเป็นจริง จึงเป็นความรักที่มั่นคง รู้จักให้รู้จักอภัย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช่อารมณ์ ยิ่งรักยิ่งปรับปรุงตัวเป็นคนดี ยิ่งอยู่นานสายใยรักก็ยิ่งแน่นแฟ้น ยิ่งแก่ก็ยิ่งเห็นคุณค่าของกันและกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : phern-kanlayanatam

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here