เหตุผลที่คนหลายคน เมื่ออายุ 40-50ปี ลาออกจากงานเยอะมาก
ช่วงนี้จะเห็นได้เลยว่า มีใครหลายคนกำลังอยากจะลาออกจากงาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุประมาณ 40 ถึง 50 ปี ลูกก็เรียนจบแล้วเริ่มมีงานทำ หมดภาระหนี้สินก้อนโต ไม่ใช่ว่าจะตัดช่องน้อยแต่พอตัว แต่คนส่วนใหญ่นั้นเท่าที่รู้จักกัน มักจะสนทนาในเรื่องของคำว่าน่าเบื่อ
เบื่อ ระบบ มีแต่ “ตัวชี้วัด”
มากมายมากดดัน ทั้งๆเหตุผล ผลลัพธ์ปลายทางเห็นกันจะๆ สร้างตึกเท่าไหร่ไม่เคยพอ คนไข้ ยังล้นเหมือนเดิม แสดงว่าภาวะสุขภาพไม่ได้ดีขึ้น เหมือนภาพที่สร้าง แต่เงินกับคนดันจำกัดมีแต่น้อยลง แล้วก็แค่สั่งด้วยประโยคอุดมการณ์ขั้นสูงสุดเท่ห์ๆแต่กินไม่ได้”ทำงานห้ามพูดถึงเรื่องเงิน”
เบื่อ คนร่วมงาน วุฒิภาวะไม่มี
อาวุโสไม่สน บางคน แค่หัวโขนในวิชาชีพ นึกว่าจะด่า จะโวยยังไงก็ได้ ขอถ่ายทอดคำพูดจริงๆให้ฟังละกัน “มืงจ่ายเงินเดือนให้กุเหรอ? ถึงมาวีนอย่างกะนายจ้าง นึกว่าตัวเองใหญ่กว่า .38 เหรอ?(สักวันเกิดแน่ กรณีนี้)”
เบื่อ ความยุติธรรม
ต่อให้คิดมาเถอะระบบสุดยอด เกณฑ์ชัดเจน สุดท้ายก็อีหรอบเดิม คือ กลายเป็นซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพื่อน/เจ้านายทรยศ รักใครชอบใครก็ให้คนนั้นเยอะอยู่ดี
เบื่อความเหลื่อมล้ำ
เยียวยากันเข้าไป กลัวเด็กใหม่ลาออก ไม่ต้องสนใจตรรกะ ทำไมคนมาทีหลังเงินเดือนเกินคนทำงานมาเป็นสิบปี? พอเงินมันล้ำหน้ากว่า เด็กมันไม่สนหรอกคำว่า “ประสบการณ์” มันคิดว่ามันแน่ สอนยังไงเรื่องอะไรมันจำเป็นต้องฟัง ทีคนเก่านี่จะไปไหนก็ช่างใช่ไหม? ถ้าไม่พอใจก็ออกไปสิ จะได้ไม่ต้องจ่ายค่า เออรี่ รีไทน์ เสียดายฝีไม้ ลายมือ ประสบการณ์หลายๆคนที่ยังเป็นประโยชน์ต่อระบบราชการเยอะ
แต่อย่างว่าแหละ…โลกนี้คนดีอยู่ยาก สิ่งที่พูดมาคิดว่าตรงทุกข้อ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม สำหรับความเห็นส่วนตัว ก็บอกมาได้เลย
ขอขอบคุณ : lifeforlover