“จากราชาสู่ความจน” เงินตราไม่มีค่า ขาดแคลนน้ำอาหาร ต้องหนีออกจากประเทศ

0

“จากราชาสู่ความจน” เงินตราไม่มีค่า ขาดแคลนน้ำอาหาร ต้องหนีออกจากประเทศ

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่มีผู้คนเกือบจะทั่วทั้งโลกและให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะภาพที่เราเห็นดังต่อไปนี้ ได้มาจากสำนักข่าวต่างประเทศ Venezuela exodus ได้มีประชาชนจำนวนมากชาวเวเนซุเอลา ได้แต่หนีออกจากประเทศของตัวเองไปอาศัยยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะต้องการเอาตัวรอดจากความอดอยากที่มี

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศกลับกลายเป็นแบบนี้ นั่นคือ การบริหารที่ไร้ฝีมือ ติดสินบนกับประชาชนประชาชนหลงใหลเป็นที่เรียบร้อย คนที่ได้ตำแหน่งก็จะอยู่ในเก้าอี้อย่างมั่นคง และสิ่งที่ตามมาในประเทศนั่นคือ การบริหารที่แย่ไม่มีสิ่งที่ดีขึ้น มีแต่ทำให้แย่ลง เงินทองในประเทศชีวิตการเป็นอยู่ เศรษฐกิจการค้าขาย แย่ลงต่ำสุด ทำให้ประเทศพังผู้คนหนีเอาตัวรอด

ในช่วงหลังปี 2000 หรือเมื่อสิบกว่าปีก่อนมีการทำไร้คุณภาพใช้วิธีประชานิยมเอาเงินของชาติเข้าซื้อเสียงประชาชนกันหลายประเทศ เช่นกลุ่ม 4 ประเทศในยุโรปใต้ที่เรียกกันว่า PIGS ในช่วงเศรษฐกิจล่มของยุโรปต่างก็เหมือนกันอย่างหนึ่งคือได้การบริหารที่แย่ และใช้วิธีที่คล้ายกันคือใช้ระบบประชานิยมซื้อเสียงประชาชนและสวัสดิการที่ได้มาฟรีจากรัฐบาล

ไม่ต่างกับประเทศไท ยในเวลานั้น ประเทศเวเนซุเอล่าก็คล้ายกันมาก ต่างก็มีรัฐบาลที่ใช้ระบบประชานิยมซื้อเสียงเพื่อรักษาเก้าอี้ของตนเอง ของไท ยเรานั้นรัฐทุ่มเงินภาษีของรัฐที่มาจากภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยว รวมถึงภาษีจากชนชั้นกลางที่หนีภาษีไปไหนไม่ได้เอาไปซื้อฐานเสียงของเกษตรกรและประชาชนระดับรากหญ้า ตัวอย่างเช่น ซื้อผลผลิตทางการเกษตรในเขตฐานเสียงของตัวเองทุกอย่างในราคาสูงเพื่อเอาใจเกษตรกรฐานเสียงของตัวเอง แล้วปล่อยให้เน่าเสียคาโกดังเพราะไม่มีปัญญาที่จะขายในราคาที่รัฐไม่ขาดทุนเช่น หอมแดง ลำไย ข้าว โครงการแจกเงินผ่านหัวคะแนนที่เป็นผู้นำชุมชนแบบโกงแหลกไร้ใบเสร็จ ฯลฯ

ต่ผมอยากจะเล่าเรื่องเวเนซุเอล่าให้ฟังเพราะเรื่องของบ้านเมืองเราในยุคนั้นคงเข้าใจกันดีแล้วว่าเราผ่านอะไรมาบ้างและเจ็บปวดกับการบริหารแย่ๆ มาเพียงใด ผมอยากจะเริ่มที่ ปธน.อูโก ชาเบซ อดีตมาจากครอบครัวผู้ใช้แรงงาน เริ่มต้นชีวิตมาจากอาชีพทหารแล้วโดนจับติดคุกเพราะปฎิวัติไม่สำเร็จ

เมื่อออกมาก็ตั้งเป็นผู้นำพรรคสหสังคมนิยมแห่งเวเนซุเอลา (PSUV) ที่ดำรงตำแหน่งเมื่อปี 1999 ที่ชูนโยบายโบลีวาร์นิยม (Bolivarianism) ยึดสัมปทานน้ำมันและกิจการใหญ่ทุกอย่างจากต่างชาติ เช่นโรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม เหมืองแร่ เอาเข้ารัฐทั้งหมด ซึ่งเวเนซุเอล่านั้นมีปริมาณน้ำมันสำรองในประเทศมหาศาลอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว มากกว่าตะวันออกกลางหลายประเทศรวมกันเลียด้วยซ้ำ

ปธน.ซาเบซ เริ่มโครงการประชานิยมสุดโต่งให้สวัสดิการประชาชนทุกรูปแบบ ยกเลิกการสนับสนุนด้านกสิกรรมของประเทศโดยซื้ออาหารจากประเทศอื่นแทนที่จะยืนบนขาตัวเอง เอาน้ำมันมาขายให้ประชาชนในราคาถูกเสียยิ่งกว่าน้ำเปล่าเสียอีก

การที่เอากำไรจากน้ำมันมาแจกประชาชนผ่านนโยบายประชานิยมของรัฐนั้นตอนแรกยังพอไปได้ แต่กิจการน้ำมันนั้นถ้าไม่พึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติบ่อน้ำมันหลายร้อยบ่อก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ แท่นขุดไหนพังโรงกลั่นไหนเสียก็ต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีใครเขามาซ่อมให้ และสูบขึ้นมาได้แล้วจะขายน้ำมันดิบให้ใครไปกลั่นก็ไม่ได้ เพราะโดนสหรัฐและยุโรปขึ้นบัญชีดำทางเศรษฐกิจจากการที่ไปยึดกิจการต่างๆ ของต่างชาติแบบไร้เหตุผล ฉีกสัญญาสัมปทานทั้งหลายที่ทำเอาไว้แต่เดิมมา จนในที่สุดก็ต้องไปกู้เงินมหาศาลจากจีนและรัสเซียเข้ามาพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งไม่นานก็หมดเงินแล้วกู้อีกไม่ได้ เพราะไม่เคยใช้หนี้ คราวนี้ถึงกับล้มละลายทางเศรษฐกิจ

ประชาชนก็เริ่มรู้ตัวว่ากำลังพบกับหายนะภายใต้นโยบายประชานิยมของ ปธน.อูโก ชาเบซ ก็เริ่มออกมาต่อต้าน แต่ก็ต้องเจอกับ พวกนักเลงอันธพาล และตำรวจที่ ปธน.เลี้ยงเอาไว้เข้าทำร้ายจนต้องล้มเลิกการประท้วงรัฐบาลไปด้วยการเสียชีวิตของชนชั้นกลางที่ออกมาประท้วงรัฐบาลไปจำนวนไม่น้อย

หลังจากปี 2013 ที่ ปธน.อูโก ชาเบซ ถึงแก่อสัญกรรม รอง ปธน.นีโกลัส มาดูโร ก็ขึ้นตำแหน่งแทน โดยในอดีตนั้นเขาเป็นเพียงพนักงานขับรถโดยสารประจำทาง ก่อนมาเป็นผู้นำสหภาพแรงงาน และได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในพรรคสหสังคมนิยมแห่งเวเนซุเอลา ที่ ปธน.อูโก ซาเบซ เป็นผู้นำ และฉายแววเผด็จการเสียยิ่งกว่า ปธน.คนเก่าเสียอีก เริ่มจากการเลือกตั้งที่โ ก งทุกรูปแบบ และการร่วมมือกับศาลสูงประกาศให้พรรคฝ่านค้านที่ชนะการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และอื่นๆ อีกมากมาย

จนในเวลานี้ประชายเวเนซุเอล่าไม่มีแม้กระทั่ง อาหาร ยารักษาโรค เพราะรัฐบาลไร้ความรู้ทางเศรษฐกิจพิมพ์เงินขึ้นมาใช้จ่ายแบบไม่อั้นจนค่าเงินตกต่ำไม่ต่างกับกระดาษเช็ดก้น อัตราเงินเฟ้อขึ้นถึง 13,000 % ภายในปีเดียว

เวลานี้ประชาชนชาวเวเนซุเอลาต้องอพยพออกจากประเทศของตัวเองด้วยสาเหตุที่อยู่ไปก็ไม่รอดเพราะเงินไม่มีค่าพอที่จะซื้ออะไรได้ ไม่มีอาหารจากการที่รัฐไม่สนับสนุนภาคเกษตรกรรมในประเทศมาหลายปี ไม่มีงานทำเพราะยึดกิจการจากต่างชาติมาแล้วก็บริหารกันไม่เป็น ไม่มียารักษาโรคไม่มีเครื่องมือแพทย์ ไม่มีแม้แต่เงินเดือนของข้าราชการ

เวลานี้จะบอกว่าเวเนซุเอลาเป็นรัฐล้มเหลวไปแล้วคงไม่ผิดนัก ทั้งที่มีทรัพยากรในดินในน้ำอยู่เต็มประเทศ มีประชาชนที่มีคุณภาพพอสมควร แต่มีการบริหารที่แย่ เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เล่นเอาประเทศที่ควรมีอนาคตที่ดีที่สุดในอเมริกาใต้ต้องกลายเป็นนรกบนดินไปได้ถึงระดับนี้ภายในเวลาไม่ถึง 20 ปี

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : Pat Hemasuk

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here