อย่าโยนทิ้งเสียดายมาก ประโยชน์ของ “แกนสับปะรด” ที่ไม่ควรมองข้าม

0

อย่าโยนทิ้งเสียดายมาก ประโยชน์ของ “แกนสับปะรด” ที่ไม่ควรมองข้าม

“สับปะรด” เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีประโยชน์มากต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างมาก นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังดีต่อรูปร่างและผิวพรรณอีกด้วย หลายๆคนมักชอบกินสับปะรดแล้วทิ้งแกนตรงกลางของสับปะรด แต่หารู้ไม่ว่าแกนกลางของสับปะรดนั้นมีประโยชน์มากมายอย่าเหลือเชื่อ มาดูสรรพคุณที่ดีกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1 มีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร หากในมื้อไหนที่ตัวเรานั้นทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เข้าไปมากๆ จนมีอาการจุก แน่นท้อง ให้ทานสับปะรดเข้าไปหลังรับประทานอาหารจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้

2 เป็นส่วนช่วยลดการอักเสบของกระเพาะอาหาร เพราะเอนไซม์บรอมีเลนมีฤทธิ์เป็นยาที่คอยกำจัดเชื้ออ่อนๆ

3 มีส่วนช่วยในระบบการขับถ่ายให้ทำงานได้ดี เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ มีกากใยมาก จึงช่วยแก้ท้องผูกได้ดี แต่ก็ไม่ควรทานมากไป เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียแทนได้

4 มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา

5 มีส่วนช่วยลดอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หลังจากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนักๆ อาการจะดีขึ้น

6 เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีส่วนช่วยการต่อต้านโรคม ะ เ ร็ งได้หลายชนิด

7 บรรเทาโรคเ ก า ต์ ได้ โดยทานสับปะรด 1/4 ผล (ขนาดเล็ก) วันละ 2-3 ครั้ง หลังอาหาร 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้เอนไซม์บรอมีเลนช่วยต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวดจากการอักเสบ

รับประทานสับประรดอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

แม้สับปะรดจะมีแคลอรี่ต่ำ แต่ก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลจึงไม่ควรรับประทานมากเกินไป โดยสับปะรดขนาดพอดีคำประมาณ 6 ชิ้น จะเท่ากับปริมาณผลไม้ 1 ส่วน ซึ่งปริมาณผลไม้ที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน คือ 3-5 ส่วน อย่างไรก็ตาม ในหนึ่งวันคุณควรรับประทานผลไม้ให้หลากหลาย โดยพิจารณาความหวานของผลไม้ประกอบด้วย ไม่รับประทานแต่ผลไม้ที่มีรสหวาน เพื่อไม่ให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป

เนื่องจากสับปะรดมีเอนไซม์บรอมมีเลนและมีความเป็นกรดสูง การรับประทานหลังมื้ออาหารจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร แต่ในขณะเดียวกันการรับประทานสับปะรดขณะท้องว่างนั้นหรือทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้ ทั้งยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเล็กน้อยภายในปาก บริเวณริมฝีปาก และลิ้นได้เช่นกัน

นอกจากการรับประทานสับปะรดสดแล้ว หลายคนยังนิยมนำเนื้อสับปะรดไปทำเป็นอาหารคาวหวานหลายชนิด เช่น แกงสับปะรด ข้าวผัดสับปะรด แกงคั่วสับปะรดกับหอยแมลงภู่ ส่วนของหวานก็มีทั้งขนมและเครื่องดื่ม รวมไปถึงการนำมาแปรรูปให้อยู่ในรูปของการถนอมอาหารได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : Siriwan Monrit Flower

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here