อย่าได้พูดว่า “ไม่มีเงิน” ไม่อย่างนั้นดวงตก หากินไม่ได้ “ไม่มีทางเจริญ” เพราะ

0

อย่าได้พูดว่า “ไม่มีเงิน” ไม่อย่างนั้นดวงตก หากินไม่ได้ “ไม่มีทางเจริญ” เพราะ

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งความยินดีเช่นกัน ที่อยากจะให้คนที่มีภาระ แบกรับภาระหนี้สินเอาไว้ แล้วมาใช้ชีวิตในเมืองให้อ่านกันทุกคน

สำหรับหลายคนที่มักจะมีปัญหาในเรื่องการยืมเงิน ทำให้บางคนต้องบอกไปว่าไม่มีเงิน เพื่อเป็นการปฏิเสธแบบไม่เสียความรู้สึกและความสัมพันธ์

แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น เป็นคำพูดที่ไม่ควรพูด ไม่งั้นคำพูดเหล่านี้จะเข้าตัวผู้พูดเอง

ญาติโยมทั้งหลายที่บอกว่า ลำบากมากในเรื่องของการทำมาหากิน ถ้าได้ตั้งใจภาวนาคาถาเงินล้านจริงๆแล้วนั้น ขอบอกเลยว่ารับรองไม่เกิน 2 เดือน จะมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น กล้าที่จะยืนยัน เพราะทำแล้วเห็นผลได้ด้วยตัวเองจนถึงทุกวันนี้ ที่บรรดาเพื่อนพระเห็นว่าอาจารย์เล็กรวย นี่ก็คืออานิสงส์ของคาถาเงินล้านนั่นเอง

เมื่อก่อนนั้น ตอนที่ประชุมพระนวกะ ท่านเจ้าคณะตำบลเขตที่ 1 ก่อนหน้านี้เคยเป็นคู่เขยกัน พ่อท่านมาถึงก็บอกว่า

“ อาจารย์ ผมได้ติดหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างอยู่ ขอยืมสัก 4 แสนได้ไหม “

อาตมาก็หัวเราะบอกว่า “รู้ไหม..ที่เห็นว่าผมรวยเป็นเพราะผมใช้เงินไม่คิด มีเท่าไรผมก็ทุ่มออกเพื่องานส่วนรวมหมด คนที่ทำได้ทุกงาน ทำได้ทุกครั้ง คนเขาจะเห็นว่ารวย แต่จริง ๆ แล้ว ผมไม่มีเงินเก็บ ส่วนคนไหนก็ตามที่ไม่ยอมทำอะไรเลย ส่วนใหญ่เขามีเงินเก็บท่วมหัวทั้งนั้น ลองไปขอยืมเขาดูก็แล้วกัน”

แปลกดีบางวันอาตมาเหลือเงินติดตัวอยู่แค่ 22 บาทเท่านั้น หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านแนะนำเอาไว้ ท่านบอกว่าจะมากจะน้อย ขอให้มีเงินติดตัวไว้ บาทหนึ่งสลึงหนึ่งก็ยังดี ถ้าใช้คาถาเงินล้านของท่าน “อย่าพูดคำว่าไม่มีเงิน” อย่างไรก็ต้องมี “ถ้าหากว่าโยมมีเหรียญที่ไม่ได้ใช้ ก็ใส่ ๆ กระเป๋าไว้บ้าง อย่างไรก็ให้มีเงินติดกระเป๋าอยู่ เป็นการแก้เคล็ด”

ในสมัยของหลวงปู่ปาน มีลูกศิษย์ที่ทำคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ แล้วประสบผลสำเร็จเป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้ พอมาถึงรุ่นหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านไม่ได้ยกตัวอย่าง แต่อาตมาก็ทำให้เห็นแล้วว่า ถ้าทำจริงก็มีผลจริงๆ เหลือแต่พวกเราทั้งหลายว่าจะมีใครทุ่มเทจริงจัง เมื่อถึงเวลาแล้วจะได้ประกาศอย่างเต็มปากเต็มคำว่า เราปฏิบัติกรรมฐานแล้วได้ผล

โดยเฉพาะในส่วนของคาถาเงินล้าน ที่มีอานิสงส์พิเศษก็คือ ความคล่องตัวในความเป็นอยู่ อานิสงส์ของการภาวนานั้น เราได้พุทธานุสติเต็ม ๆ อยู่แล้ว เพราะเป็นคาถาที่พระพุทธเจ้าท่านมอบให้มา ถ้าเราต้องการไปนิพพานก็ภาวนาคาถาเงินล้าน แล้วเอาใจเกาะพระนิพพานไว้

ในส่วนของการดำรงชีวิตอยู่ เราต้องการผลพิเศษของคาถา ไปทำจริง ๆ สักที เราต้องกล้าคิด กล้าทำ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าไม่มีใครกล้าเราก็ว่าเสียเอง ทำตัวเองให้เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์เสียเลย ถ้าเราทำได้ผล ถึงเวลาไปสอนคนอื่น ก็จะสอนได้อย่างเต็มปากเต็มคำอีกด้วย

ขอขอบคุณ : อาจารย์เล็ก

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here