คำว่า “ศีลเราเสมอกัน” เป็นอย่างไร ทุกคนทำความเข้าใจใหม่

0

คำว่า “ศีลเราเสมอกัน” เป็นอย่างไร ทุกคนทำความเข้าใจใหม่

เชื่อว่าหลายๆคนมีความเชื่อในเรื่องของบุญและก ร ร มการทำความดีเป็นสิ่งหนึ่ ง ที่เราควรปฏิบัติ แล้วมันจะส่งผลดีต่อตัวเรา และอยู่กับตัวเราไปตลอด ทำให้มีชีวิตที่มีความสงบสุขความเจริญก้าวหน้า

หลายคนคงเคยได้ยินกับคำว่า “ศีลต้องเสมอ” จึงได้พบกันมันเป็นเรื่องจริง บุญถึงมันไม่ใช่เรื่องที่เอาไว้หลอกให้กับคน ให้คนเชื่อในบาปบุญแต่มันมีอยู่จริงบนโลกใบนี้

เคยได้ยินกับคำว่า บุญมีแต่ก ร ร มบัง กันไหม คำนี้เป็นคำที่อธิบายตัวมันเองได้ดีมากๆ สำหรับคนที่ยังไม่ถึงเวลาของเขานั้น ต่อให้เราเคี่ยวเข็ญเท่าไหร่ เขาก็จะไม่มีวันสนใจในความหวังดีของเราเพราะเขาคนนั้นถูก ก ร ร มบัง

“บุญ” ของเขายังไม่ถึง

ถ้าบุญไม่ถึง ต่อให้ยื่นความช่วย เหลือไปอย่างไรก็ไม่ได้ผล เอาหนังสือดีๆ ไปวาง เขาก็จะไม่อ่าน ออกเงินให้ไปเข้าสัมมนา เขาก็ฟังไปหลับไป ชวนไปวัดไปวา เขาก็ไปให้เรา จะได้จบๆ ไป กำลังจะได้ยินประโยคเปลี่ยนชีวิตจากในทีวี ก็มีอันที่เขาจะต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ เรียกว่าแคล้วคลาดกับทางออกของชีวิตอยู่ร่ำไป

ทำไมผมพูดแบบนั้น ก็เพราะเรื่องนี้เองเคยเกิดขึ้นกับชีวิตผมมาก่อน ผมรู้เลยว่าตอนช่วงหลุมดำของชีวิตผมนั้น “บุญ” ผมไม่ถึง จึงต้องเผชิญก ร ร ม ไขว่คว้าหาทางออกยังไงก็ไม่เจอ หรือต่อให้ทางออกมี ผมก็มองไม่เห็น

แต่แล้วจู่ๆ วันนึงทางรอดมันก็มาพร้อมๆ กันหมด เจอหนังสือดีๆ เจอคนดีๆ เจอโอกาสดีๆ สุดท้ายก็หลุดว งโคจรนั้นมาได้

แล้วพอหลังจากนั้น ชีวิตก็ไม่เคยเจอปัญหาหนักๆ แบบนั้นเลย หรือพอเหมือนจะมีปัญหา อยู่ดีๆ ก็จะไปเจอทางออกมาบอกใบ้ให้ แล้วก็ผ่ านมาได้อย่างไม่ยากลำบาก

ทั้งหมดนี้ผมคิดว่าเป็นเพราะผม “บุญถึง” แล้วนั่นเอง คำถามก็คือ แล้วทำอย่างไรจะให้ “บุญถึง”? คำตอบที่ผมจะตอบ อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องตามหลักศาสนา แต่คิดว่าน่าจะเข้าถึงคนทั่วไปได้ไม่ยาก ส่วนจะได้ผลหรือไม่ ลองไปปรับใช้ตามจริตเองก็แล้วกันครับ

แท้จริงแล้วคำว่า “บุญ” นั้น ผมตีความว่ามันคือ “พลังงาน” นั่นเอง เน้นให้ชัดกว่านั้นก็คือ “พลังงานด้านบวก” เพราะฉะนั้นถ้าเราทำให้จิตใจเราอยู่ใน “พลังบวก” เท่าไหร่ บุญที่ว่าก็จะค่อย ๆ สะสมจน “บุญถึง”

เราทำอะไรได้บ้าง? แน่นอน ถ้าเป็นทางศาสนา ก็จะบอกให้ทำบุญทำทาน เข้าวัดเข้าวา ซึ่งนับเป็นเรื่องดีครับ ทำบุญทำทานน่ะทำไปเหอะ แต่ผมคิดว่าเราสามารถทำเพิ่มเติมจากนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็น อยู่เงียบๆ คนเดียว ทบทวน นั่งสมาธิ

ออกกำลังกาย ทำกิจก ร ร มการกุศล ไม่หมกมุ่นกับปัญหา ให้อภัย คบคนดีๆ หาความรู้ใหม่ๆ ใส่สมอง มีทรัพย์พึงให้ทาน มีความรู้พึงให้วิทยาทาน มีแรงมีกำลังก็ช่วยสังคม ไม่มีแรง แค่รอยยิ้มให้พนักงานบริการก็ยอดเยี่ยมแล้วครับ นี่คือบางตัวอย่างที่ทำได้

แน่นอน ถ้า “บุญไม่ถึง” เขาคนนั้นก็จะไม่ยอมทำสิ่งเหล่านี้อยู่ดี ยังคงมีความสุขที่จะมีความทุกข์ต่อไป แบบนั้นก็คงต้องเอาที่สบายใจแล้วล่ะครับ

แต่ถ้าเราศีลเสมอกัน จนคุณบังเอิญผ่ านมาอ่านบทความนี้ที่ผมเขียน และกำลังสงสัยว่า ชีวิตจะไปต่ออย่างไรดี? หาทางไปไม่เจอ ผมแนะนำให้ “สร้างบุญ” ครับ สร้างบุญในความหมายที่ผมกล่าวไปนะครับ คือ “สร้างพลังงานบวก”

ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณบอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ นักเขียน Bestsellera

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here