คู่รัก 4 คู่ “มาอยู่รวมกัน” คนรักอยู่ข้างๆ เพื่อนรักอยู่หลังถัดไป ชีวิตดีมากๆ
การวางแผนชีวิตของตัวเองเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องคิดเอาไว้ ยิ่งเป็นในช่วงของหลังการเกษียณอายุ แต่ละคนจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ในความเข้าใจของคนทั้งโลกนั้นมองว่า คนมีอายุส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นั้นเป็นเพราะเขาได้มีการวางแผนอนาคต วางแผนสำหรับการใช้ชีวิตที่ดี ซึ่งในแต่ละคนนั้นจะต้องยึดหลักสวัสดิการในการเกษียณอายุ ไม่ต้องให้ลูกเลี้ยงตอนแก่ และ ไม่หวังพึ่งรัฐบาล
ซึ่งในวันนี้เราได้มีเรื่องราวรวมกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นอะไรที่ไม่เคยได้ยิน แต่กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ พอพวกเราแก่ ก็ย้ายไปอยู่ที่หนึ่งด้วยกัน ดื่มชา ปลูกต้นไม้ เดินเล่น ไปเที่ยวด้วยกัน ที่เท็กซัสในสหรัฐอเมริกามีเรื่องราวการ “รวมกลุ่มผู้สูงอายุ” ของสามีภรรยา 4 คู่ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้สูงอายุทั่วโลก คนรักอยู่ข้างๆ เพื่อนๆ อยู่ประตูถัดไป แม้ว่าจะแก่แล้ว ก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง
สามีภรรยาชาวอเมริกันทั้ง 4 คู่ เป็นเพื่อนกัน รู้จักกันมานานกว่า 20 ปี พอลูกๆ โตหมดแล้ว พวกเขาก็ซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ปลูกบ้านเล็กๆ ขึ้นมา 4 หลัง แล้วอยู่ด้วยกัน เป็นสถานการณ์ที่บังเอิญมาก พวกเขาพบทุ่งหญ้าร้าง ใกล้กับทะเลสาบ Llano มีทัศนียภาพที่สวยงาม
ตอนแรกพวกเขาคิดจะสร้างบ้านหลังใหญ่ 1 หลัง แล้วทั้ง 4 ครอบครัวอยู่ด้วยกัน แต่พอคำนึงถึงความสำคัญของพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจปลูกบ้าน 4 หลังแยกจากกัน
บ้านแต่ละหลังใช้ค่าปลูกสร้าง 4 หมื่นเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ โครงสร้างที่เรียบง่าย และง่ายต่อการก่อสร้าง มีการจัดการใช้งานพื้นที่อย่างดี อาคารทั้งหมดมีคาร์บอนค่อนข้างต่ำ มีอุปกรณ์เก็บน้ำฝน และแผงโซล่าเซลล์
ภายในของกระท่อมได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ด้วยโครงสร้างและงานฝีมืออย่างสวยงาม ผู้อยู่อาศัยสามารถทำงานหรืออ่านหนังสืออยู่ภายในได้อย่างสบายใจ ผนังส่วนใหญ่ทำจากท่อนซุง สถาปนิกจงใจรักษาลายไม้ไว้อย่างเดิม ให้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ กลิ่นของป่าทำให้จิตใจสงบ ให้ความรู้สึกกลับคือสู่ถิ่นฐาน ในขณะเดียวกันก็ไม่ขาดความน่าสนใจในชีวิต
ดูการ “รวมกลุ่มผู้สูงอายุ” ของอเมริกาแล้ว ก็มาดูการ “อยู่ร่วมกันของผู้สูงอายุ” ของเยอรมันบ้าง คุณปู่เสียไปปีที่แล้ว เหลือแค่คุณย่าใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่ แม้ว่าคุณย่าจะมีลูกชาย แต่ที่เยอรมัน ลูกชายลูกสาวแต่งงานแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่อยู่กับพ่อแม่
เช้าตรู่วันหนึ่ง คนชราผมขาวผลักประตูเดินเข้ามาในบ้าน พอเดินเข้าประตูก็ตะโกนเสียงดัง “Schmidt พวกเรา ‘อยู่ด้วยกัน’ เหอะ” คุณย่าตอบกลับอย่างดีใจ “เอาสิ ฉันก็กำลังคิดอย่างนั้น” หลังจากนั้น พวกเขาก็คุยกันต่ออย่างมีความสุข ต่อมาถึงได้รู้ว่าที่แท้ ที่คุณย่าบอกว่า “อยู่ด้วยกัน” คือสมัยนี้ผู้สูงอายุชาวเยอรมันที่เกษียณอายุแล้วนิยมการใช้ชีวิตแบบ “แก่ไปด้วยกัน”
คุณย่าบอกฉันว่าพวกเขาพบกันตอนไปเรียนวาดภาพสีน้ำมันในมหาวิทยาลัยสำหรับผู้อาวุโส เขาอยู่บ้านใกล้ๆคุณย่ นิสัยของทั้งสองเข้ากันได้ ก็เลยเกิดความคิด “อยู่ด้วยกัน” ขึ้นมา
ชาวเยอรมันสามารถเข้าไปอาศัยในบ้านพักคนชราหลังจากอายุ 60 ปี แค่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เบื่อกับชีวิตที่น่าเบื่อในบ้านพักคนชรา ดังนั้นจึงมีผู้สูงอายุบางส่วนเนื่องจากมีความสนใจคล้ายๆ กัน จึงตัดสินใจมาอยู่ด้วยกัน
ในเยอรมัน นอกจากการอยู่ด้วยกันของคนแก่แล้ว ผู้สูงอายุบางคนที่หัวใจยังเป็นหนุ่มเป็นสาวยังชอบอยู่ร่วมกับคนหนุ่มสาว บ้านเช่าในเยอรมันหายากมาก ค่าเช่าก็แพงจนสะดุ้ง วัยรุ่นส่วนใหญ่จึงหาบ้านได้ยากมาก
ดังนั้น ผู้สูงอายุบางคนจึงยินดีลดค่าบ้านของตน หรือให้คนหนุ่มสาวมาอาศัยอยู่ด้วยฟรีๆ แต่คนหนุ่มสาวที่มาอยู่ด้วยจะต้องช่วยรับผิดชอบในการดูแลคนชรา ยกตัวอย่างเช่น คุยด้วย ทำความสะอาดสวน ไปซื้อของข้างนอก
ปัจจุบันนี้ “อยู่ด้วยกัน” กลายเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้บ่อยของคนชรา คนชรากับคนชรา หรือคนชรากับหนุ่มสาว ช่วยเหลือกัน ดูแลกัน เวลาร่างกายของผู้สูงอายุเกิดความผิดปกติก็จะถูกพบและได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ดังนั้นอายุขัยเฉลี่ยของผู้สูงอายุที่นี่จึงยืนยาวขึ้นเรื่อย ๆ
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าในประเทศตัวเองน่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่การรวมกลุ่มคนชราก็กำลังเป็นเทรนด์ ทุกคนสามารถเลือกที่จะอยู่ใกล้ๆกัน ใกล้กับคนที่รัก คนที่มีความชอบเหมือนๆกันก็มาอยู่ด้วยกัน ด้านหน้าเป็นทุ่งหญ้า ด้านหลังเป็นภูเขา บนภูเขามีเส้นทางเดินป่า อ่างเก็บน้ำ สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ เดินเล่นในสวนเบอร์รี่ เก็บผัก ชมฟาร์ม เป็นชีวิตที่ดีจริงๆ
ชีวิตวัยชรา เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ พอคิดว่าอีกหน่อยจะได้อยู่กับเพื่อนๆ ที่สนิทกัน เดินเล่น พูดคุย เลี้ยงหลานไปด้วยกัน แค่คิดก็อดยิ้มไม่ได้ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่า “แก่” ก็ไม่น่ากลัวอะไร
ขอบคุณข้อมูลจาก : LIEKR
