เจอตัวแล้ว อดีต ส.ส.ตกยาก มีแต่ให้ นอนวัด เงินติดตัวไม่กี่ร้อย

0

เจอตัวแล้ว อดีต ส.ส.ตกยาก มีแต่ให้ นอนวัด เงินติดตัวไม่กี่ร้อย

ภายหลังจากที่ได้มีการเสนอเนื้อข่าว อดีต ส.ส.ตกยาก นอนสังกะสี กินข้าวคลุกปลาเค็ม และก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งในตอนนี้ได้เจออดีต ส.ส.คนนี้แล้ว ชีวิตอดมื้อกินมื้อ เพราะว่านำเงินของตนเองนั้นไปช่วยเหลือประชาชนจนสิ้นเนื้อประดาตัว อาศัยเพียงแค่เบี้ยยังชีพคนชราประทังชีวิตเท่านั้น

อีกครั้งในอดีตของเขานั้นยังเป็น ส.ส. ที่มีประวัติที่น่ายกย่อง เพราะเขาเป็น ส.ส. ที่ไม่เคยซื้อเสียง ปั่นจักรยานออกหาเสียง โดยเขาเขียนเบอร์ผู้สมัครไว้ที่เสาบ้าน และเมื่อได้รับตำแหน่งก็ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ในๆใส่ตัวเองโดยมิชอบสักครั้งเดียว

โดยเรื่องราวดังกล่าว มีผู้ให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก และทางล่าสุด ทีมข่าวเจาะประเด็น ได้พญาติดตามตัว “ประจัญ กล้าผจญ” อดีต ส.ส. จนกระทั่งมาพบเขาในที่สุด

ประจัญ กล้าผจญ อดีต ส.ส.ตกยาก ตอนนี้อยู่ในวัย 78 ปี อาศัยอยู่ที่ห้องเช่าเล็กๆแห่งหนึ่ง อยู่ในตำบลเมืองคง อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยพื้นที่ให้เช่านั้นปลูกผักคะน้า ปลูกมะละกอเพื่อประทังชีวิต

ยอมเปิดใจกับทีมข่าวว่า ในตอนที่เป็นข่าวใหญ่ในช่วงปี 2552 มีผู้ให้ความช่วยเหลือช่วงที่เป็นข่าวดัง โดยเขาก็ย้ายตนเองจากบ้านสังกะสีไปอยู่ที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองไอ้อู๊ก ที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำห้วยตะคร้อ ซึ่งอยู่ได้ 8 เดือนก็ประสบเหตุแบบไม่มีข้าวกิน ไม่มีแม้กระทั่งเงิน จึงย้ายไปอยู่ที่วัด

“วัดแห่งนี้ผมเป็นคนระดมเงินสร้างไว้ตอนที่เป็น ส.ส. ชื่อว่าวัดดอนวิเวก อยู่ในโคราชนี่แหละครับ ผมก็ไปอาศัยข้าวที่วัดกิน ช่วยพระทำความสะอาดเพื่อแลกข้าววัด พออยู่ได้ไม่กี่เดือน ก็มีเพื่อนเก่าเขาติดต่อมาให้ผมไปหาที่กรุงเทพฯ เขาเป็นห่วงและอยากจะพบหน้า”

“จากนั้น ผมก็เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อนๆ เขาได้รวมเงินคนละนิดละหน่อยไว้ให้ ซึ่งผมรับไว้ไม่ได้ เพราะมันละอายใจ เราจะไปขอเงินเขาเปล่าๆ ได้อย่างไร และผมไม่มีวันขอเงินคนอื่นไปได้ตลอดชีวิตแน่ พอผมไม่ยอมรับเงินก้อนนี้ไว้ เพื่อนๆ เขาก็บอกว่า มันมี พ.ร.บ.กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา กองทุนนี้ เขาจะมอบเป็นเงินรายเดือนให้ ซึ่ง ณ เวลานั้น เป็นเงิน 15,000 บาท”

“จากนั้นมา ผมก็ได้รับเงินทุกเดือน เดือนละ 15,000 บาท ก็ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น มีเงินส่งเสียลูกๆ ทุกเดือน และสามารถเช่าห้องเล็กๆ อยู่ได้ แต่พอรัฐบาลคุณประยุทธ์เข้ามา เขาก็ลดเงินนี้ลง จากเดือนละ 15,000 บาท เหลือเป็น 12,000 บาท แต่ผมก็ยังอยู่ได้ ประหยัดให้มากขึ้น เก็บผักหลังห้อง ตกปลาในคลองกิน”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีลูกด้วยหรือ และลูกมาดูแลติดต่อบ้างหรือไม่? ประจัญ กล้าผจญ อดีต ส.ส. 2 สมัย เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบว่า “ผมมีลูก 5 คน เขาอยู่กับแม่ แต่ผมก็ส่งเงินให้ลูกไม่เคยขาด ตอนนี้ก็เรียนจบปริญญากันหมด ทำงานในบริษัทห้างร้านที่กรุงเทพฯ กันทุกคนครับ ผมก็ยังติดต่อลูกๆ ทุกคน”

ส่วนลูกๆ ช่วยดูแลพ่อคนนี้หรือไม่นั้น ประจัญ กล้าผจญ อดีต ส.ส. 2 สมัย ตอบว่า “ผมเข้าใจลูกๆ เขานะครับว่า เขาต้องทำมาหากินเลี้ยงดูตัวเอง หากจะให้เขามาดูแลเราคงจะไม่ได้ เพราะลูกๆ ไม่มีต้นทุนอะไรมาก่อนเหมือนลูกคนอื่นๆ เพราะในบางเดือน เขาก็ยังโทรมาขอเงินผมอยู่ทุกเดือน พอฟังเสียงลูกบอกว่า พ่อหนูไม่มีเงินเลย พ่อหนูจำเป็นต้องใช้เงิน คนเป็นพ่อนะ ไม่มียังไงก็ต้องหาให้ได้ แม้เราต้องอด”

ส่วนประเด็นที่มีเพื่อนบ้านเล่าว่า เดิมที อดีต ส.ส. เคยมีบ้านไม้หลังใหญ่โต แต่มีพระและชาวบ้านมาขอไม้ไปทำสะพาน อดีต ส.ส.ไม่มีเงิน เลยให้มารื้อไม้บ้านตัวเองเอาไปสร้างสะพาน จนต้องหาสังกะสีมากันแดดกันลมเป็นกระต๊อบนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่?

อดีต ส.ส. ตอบว่า “เป็นเรื่องจริง พอผมเอ่ยปากว่ามารื้อบ้านผมได้นะ เขาก็เอาจริง ยกขบวนมารื้อไปจนหมด เอาไปทุกอย่างตั้งแต่ไม้กระดาน ต้นเสา สังกะสี จากนั้นผมก็ไม่มีที่อยู่ ผมเลยต้องเอาสังกะสีเหลือๆ มากั้นเป็นบ้านหลังใหม่อยู่กับภรรยา แต่ภรรยาผมเขาทนไม่ได้ ก็ทิ้งผมไป ผมเสียใจมาก เขาอยู่ร่วมแต่สุข พอทุกข์ไม่ร่วมต้าน”

“แต่จะไปโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะตอนที่สุขสบาย ผมก็ทำเขาเสียใจ เพราะมีหลายครั้งที่ผมช่วยชาวบ้านแล้วภรรยาผมเขาเดือดร้อน เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มียายแก่ๆ เขาเดินเท้าเข้ามาที่บ้านผม แล้วเขาก็เล่าว่า ยายเดือดร้อน ไม่มีเงินค่าเทอมหลาน อยากให้ผมช่วยเหลือเรื่องเงินค่าเทอม เพราะโรงเรียนจะไม่ให้หลานของยายสอบ แต่ตอนนั้นผมเองก็ไม่มีเงินเหมือนกัน เลยหันไปบอกภรรยาว่า ถอดทอง (หนัก 1 บาท) ที่คอให้ยายเขาไปก่อน เดี๋ยวไว้จะซื้อให้ใหม่ นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ผมยังหาเงินมาซื้อทองให้ภรรยาผมไม่ได้เลย สุดท้าย เธอก็อยู่ไม่ได้”

“คนในละแวกนี้ เขาบอกว่า ผมเป็นพระเวสสันดร เพราะตลอดชีวิตของผม ผมมักจะทนไม่ได้ที่เห็นชาวบ้านเดือดร้อน ในสมัยที่ผมยังมีเงินมีทอง เวลาออกไปเจอชาวบ้าน เขาก็ชมว่าเสื้อผมสวย ขอได้ไหม แล้วก็มาดึงๆ จับๆ ผมก็ถอดให้เดี๋ยวนั้นเลย แล้วชาวบ้านก็ทำแบบนี้กันบ่อยๆ เสียด้วย (ยิ้ม)”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีเงินติดตัวอยู่กี่บาท? อดีต ส.ส. ตอบว่า “ไม่กี่ร้อย แต่ต้องอยู่ให้ได้ถึงเดือนนี้ แต่ไม่มีปัญหาหรอกนะครับ เก็บผัก เก็บหญ้ากิน (หัวเราะ)”

“เคยมีคนถามผมนะครับว่า ตอนเป็น ส.ส.ทำไมไม่โกง ถ้าโกงชีวิตคงไม่เป็นแบบนี้ ผมก็ตอบเขาไปว่า ผมไม่กล้า ผมกลัว สมัยนั้น ผมยอมรับเลยนะครับว่า ทำถนนหนทางแต่ละที มีช่องให้โกงกินได้มากมาย หรือจะขอเปอร์เซ็นต์ผู้รับเหมาก็ทำได้สบายๆ”

“แต่ผมไม่กล้าทำ ผมกลัวจริงๆ และทุกวันน้ี ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะครับว่า คนที่โกง เขาไม่กลัวกันหรือไง นั่นเงินหลวง เงินแผ่นดินเลยนะนั่น จะนอนหลับกันหรือ ไม่กลัวกันเลยหรือ” ประจัญ กล้าผจญ อดีต ส.ส.ตกยาก ทิ้งท้ายสั้นๆ แต่ความหมายบาดลึก.

ขอขอบคุณ : thairath

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here