ตอนเล็กๆ ผมเห็นเเก่ตัวมาก แต่ตอนพ่อยื่น “บะหมี่ 2 ชาม” ให้ ผมก็เป็นคนดีขึ้นได้

0

ตอนเล็กๆ ผมเห็นเเก่ตัวมาก แต่ตอนพ่อยื่น “บะหมี่ 2 ชาม” ให้ ผมก็เป็นคนดีขึ้นได้

เรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการใช้ชีวิตมาฝากกัน เป็น “วิธีการคิดสีจิ้นผิง” จากสามประโยคที่พ่อได้สอนในนาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักประธานาธิบดีผู้ที่ดูแลจีนอย่าง “สีจิ้นผิง”

เพราะว่าตัวเขาเองนั้นได้ผ่านเรื่องราวมากมายในวัยที่เขายังเด็ก บิดาของเขานั้นได้สอนสั่งอบรมให้เขาเป็นคนดี และให้แง่คิดดีๆ จนท่านนั้นจดจำและนำมาปฏิบัติเป็นหลักในการทำงาน

และสิ่งต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ชีวิตของท่านเองประสบความสำเร็จนั่นก็คือ

“ตอนเด็กๆ ข้าพเจ้าเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก…

เจออะไรดีๆ จะอยากเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ โดยไม่ใส่ใจว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไร นานเข้าเพื่อนๆ หายไปทีละคนสองคน มีเพื่อนน้อยลงไปเรื่อยๆ ข้าพเจ้ากลัดกลุ้มและหงุดหงิดใจมาก นอกจากเห็นแก่ตัวแล้ว ข้าพเจ้ายังเป็นคนชอบวิพากษ์วิจารณ์คนลับหลัง

มีอยู่คืนหนึ่ง คุณพ่อทำบะหมี่สองชาม ชามหนึ่งมีไข่ไก่ฟองหนึ่งบนบะหมี่ อีกชามดูไม่มีอะไร มีแต่บะหมี่…”

“คุณพ่อถามข้าพเจ้าว่าจะทานชามไหน?

ตอนนั้นไข่ไก่เป็นของหายากมาก ตอนตรุษจีนหรือวันเกิดถึงมีโอกาสทานไข่ไก่ ก็แหง๋อยู่แล้ว ข้าพเจ้าก็เลือกทานชามที่มีไข่โป๊ะอยู่ข้างบน

ความจริงข้าพเจ้าเลือกผิดนะครับ ตอนที่ทานอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น เห็นคุณพ่อทานถึงก้นชามแล้ว ในก้นชามถึงกับมีไข่สองฟอง

ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจ ที่ตนใจร้อนไม่ได้คิดให้ดี….

คุณพ่อเห็นท่าก็ยิ้มแล้วพูดกับข้าพเจ้าว่า “ลูกเอ๊ย เจ้าจงจำไว้ที่ตาเห็นนั้นอาจไม่ใช่ของแท้ คิดจะเอาเปรียบคนอื่น กลับขาดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก”

ในคืนที่สอง คุณพ่อก็ทำบะหมี่อีกสองชาม ดูแล้วเหมือนของคืนก่อนไม่มีผิด ชามหนึ่งมีไข่โปะอยู่ฟองหนึ่ง อีกชามหนึ่งคล้ายมีแต่บะหมี่ คุณพ่อให้ข้าพเจ้าเลือก ข้าพเจ้าเสียค่าโง่ไปทีแล้ว

ข้าพเจ้าเลือกเอาชามที่ไม่มีไข่ คุณพ่อมองข้าพเจ้าโดยไม่ได้ปริปาก

ข้าพเจ้าจับตะเกียบรีบโกยบะหมี่เข้าปาก ด้วยคิดจะทานไข่ในก้นชามไวๆ แต่หารู้ไม่ว่า นอกจากบะหมี่และซุปแล้วไม่มีอะไรเลย

และแล้วคุณพ่อกับกล่าวกับข้าพเจ้าว่า

ลูก เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะลูกนะ “อย่าให้ความสำคัญหรือเชื่อในประสบการณ์มากเกินไป เพราะการดำรงชีวิตมีการพลิกเพลงหลอกเราได้ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ ไม่ต้องเสียใจ ถือว่าเป็นการลิ้มลองเป็นประสบการณ์ ก็แล้วกันนะลูก ภูมิปัญญาเหล่านี้หาอ่านจากตำราไม่ได้นะ”

ในคืนที่สาม คุณพ่อก็ทำมะหมี่สองชามอีก

ดูเป็นแบบเดียวกัน ชามหนึ่งมีไข่ฟองหนึ่ง อีกชามไม่มีไข่ คราวนี้ข้าพเจ้าให้คุณพ่อเลือกก่อน ไม่หุนหันเหมือนสองคืนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าพูดกับคุณพ่อด้วยความเคารพว่า

“คุณพ่อครับ ท่านเป็นผู้ใหญ่ท่านเหน็ดเหนื่อย กับการดูแลครอบครัวเรามามากแล้ว คุณพ่อเลือกก่อนเถอะครับ”

คุณพ่อเลือกเอาชามที่มีไข่หนึ่งฟอง ส่วนข้าพเจ้าก็ทานชามที่ไม่เห็นมีไข่ แต่ผิดคาดนะครับ ในก้นชามมีไข่อยู่สองฟอง คุณพ่อเงยหน้าขึ้น พูดกับข้าพเจ้าด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนและครุ่นคิด แต่ก็พูดแบบเนิบๆ ว่า

“ลูกต้องจำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิดและทำเพื่อคนอื่นแล้ว ความโชคดีก็บังเกิดกับเราได้นะ”

คำพูดของคุณพ่อทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกละอายใจในตัวเองเป็นอย่างมาก นับแต่นั้นมา ข้าพเจ้าก็จดจำสามประโยคของคุณพ่อไว้มิรู้ลืม ยึดเป็นสรณะในการดำรงชีวิต ไม่ว่าเป็นการวางตัวหรือปฏิบัติหน้าที่ ก็มักจะคำนึงถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อน ผลก็เป็นอย่างที่คุณพ่อได้สอนสั่งไว้จริงๆ ความโชคดีมาเยือนมิได้ขาด และหน้าที่การงานของตัวเองก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ งานบางอย่างก็ไปแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว

สีจิ้นผิง ที่มา สุภาษิตจีน-สามประโยคที่พ่อสอนสั่ง

เล่าโดย ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง

แปลโดย อาทร ฟุ้งธรรมสาร

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here