ผมโดนบอกเลิก เพราะผมดูไม่มีอนาคต พอได้รู้ความจริงถึงกับไปไม่เป็น

0

ผมโดนบอกเลิก เพราะผมดูไม่มีอนาคต พอได้รู้ความจริงถึงกับไปไม่เป็น

ตัวผมเองนั้นเป็นคนต่างจังหวัด และเนื่องจากฐานะทางบ้านของผมไม่ค่อยดีนะ ผมจึงเรียนจบได้แค่มัธยมปลายเพียงเท่านั้น หลังจากที่ผมได้เรียนจบมัธยมปลาย ผมก็จะต้องออกไปหางานทำอย่างหนัก และผมมักจะทำงานล่วงเวลาจนดึกจนดื่นอยู่เสมอ ผมทำงานค่อนข้างจะใช้แรงงาน ผมเหนื่อย เลยไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับผู้หญิงสักเท่าไหร่

แฟนของผมคนแรกนั้นเรารู้จักกันโดยบังเอิญ โดยมีเพื่อนแนะนำให้รู้จัก เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดที่ผมอาศัยอยู่ ตอนที่เรารู้จักกันนั้นเรียกได้ว่าเป็นบุพเพสันนิวาสเลยก็ว่าได้ เราทั้งสองคนต่างมีบางสิ่งบางอย่างดึงดูดซึ่งกันและกัน และทำให้เราสองคนนั้นคบกันจนถึงทุกวันนี้

ในสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย เธอเป็นผู้หญิงที่ดีและห่วงความรู้สึกของผมมาก แม้กระทั่งในตอนออกมาทานข้าวด้วยกันเธอยังไม่ค่อยออกมาเจอผมเลย เพราะถ้าหากเจอผมก็จะเป็นคนเลี้ยงเธอตลอด ไม่ต้องการจะให้ผมใช้เงินเยอะ

ผ่านไปไม่นานผมก็เริ่มมีความรู้สึกดีดีกับเธอ ผมเริ่มรักเธอมากขึ้น หลังเรียนจบเธอก็ได้ออกไปหางานทำ แล้วนิสัยของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ในวันนั้น การทำงานของเธอในแต่ละงานมักจะมีปัญหาเสมอ มีปัญหากับเรื่องงานบ้าง เพื่อนร่วมงานบ้าง เจ้านายบ้าง สุดท้ายแล้วผมก็ได้ตัดสินใจว่าผมจะเป็นคนเลี้ยงเธอเอง

ในตอนนั้นเองเธอซาบซึ้งใจผมมาก ใครจะไปคิดล่ะว่าผมเลี้ยงเธอ จะเป็นจุดเริ่มต้นปัญหาของครอบครัวของเรา เราตัดสินใจอยู่บ้านเช่าเดียวกัน เธออยู่บ้านจนเบื่อ เบื่อจนไม่รู้จะทำอะไร เลยต้องออกไปหาซื้อของ เดินช็อปปิ้ง การออกจากบ้านแต่ละครั้งของเธอนั้นใช้เงินไม่ใช่น้อยเลย

สำหรับในเรื่องการใช้เงิน ผมเตือนเธอไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดนั้นเธอบอกกับตัวผมเองว่า มันเป็นความผิดของผม ผมหาเงินให้เธอใช้ไม่พอ แถมยังพูดยังบอกให้ผมฟังอีกว่า ทำไมเพื่อนของเธอใช้เงินเป็นรายเดือนตลอด แฟนของเพื่อนให้เงิน ไม่เคยให้ขาดเลยสักเดือน

สิ่งที่ผมทำจนถึงทุกวันนี้ นั่นเป็นเพราะว่าผมรักเธอ ใครจะไปคิดล่ะหลังจากนั้นได้ไม่นาน เธอก็บอกเลิกผมอย่างไร้เยื่อใย ไม่มีคำพูดอะไรหลงเหลืออยู่ ผมได้แต่พยายามสงบจิตสงบใจเอาไว้ แล้วผมก็ถามกับเธอว่าทำไมถึงต้องเลิกกับผมด้วย

เธอพูดออกมาโดยไม่สนใจความรู้สึกของผมเลย “ก็เพราะว่าเธอมันจน ทำงานมาตั้งนานแล้วไม่มีความก้าวหน้าในชีวิตเลย แล้วเธอก็หัวเราะเยาะใส่ผมต่อหน้าเพื่อนของเธออีก 3 คนที่มารอ และผู้ชายคนหนึ่งที่เขาแอบคุยทุกคืน”

สมัยนี้ใครๆก็จะต้องใช้เงินกันทั้งนั้นแหละ หากคุณมีเงิน ก็มีคนเคารพนับถือ แต่นี่คุณไม่มีอะไรหลงเหลือในชีวิตเลย นี่คือคำพูดของผู้หญิงคนนี้

ผมได้แต่ทำหน้ายิ้มกลับไป แล้วเธอก็พูดกลับมาว่า “ยังจะมีหน้ามายิ้มอีกหรอ”

ผมไม่ได้พูดไม่ได้ตอบกลับอะไรเธอทั้งนั้น แล้วผมก็เดินเข้าไปในห้องนอน หยิบสมุดบัญชี สมุดเงินฝากที่ผมพยายามเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตให้เธอดู เมื่อเธอเห็นตัวเลข เธอถึงกับพูดไม่ออก น้ำตาเธอไหลออกมา

ทันใดนั้นเธอเปลี่ยนสีหน้า แล้วก็รีบเปลี่ยนใจทันที พร้อมกับคำพูดที่อ่อนโยน ทำไมคุณมีเงินเยอะมากขนาดนี้

ผมก็เลยตอบไปว่า ในช่วงเวลาที่ผมกลับบ้านดึกบ่อยๆ ผมไปทำงานล้างจาน ทำงานแบกหาม ทำงานสารพัดที่คุณไม่เคยรู้ เพื่อที่สักวันผมจะนำเงินก้อนนี้ไปใช้สำหรับงานแต่งของเรา แต่มันก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้วล่ะ

ทันใดนั้นเองเธอรีบคุกเข่าต่อหน้าผม พร้อมกับคำพูดที่ว่า “ฉันขอโทษ ที่ฉันพูดออกไปในตอนนั้นฉันเพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น ฉันยังคงรักคุณเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง”

ผมเห็นภาพที่เขาคุกเข่า และผู้สารภาพกับผม ผมก็นับถือการเล่นละครของเธอจริงๆ ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมเลยพูดออกไปว่า

“ออกจากบ้านผมไปเถอะ คุณไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมจะใช้ชีวิตร่วมด้วย”

สุดท้ายแล้วเธอก็ยอมถอดใจออกไป เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีสำหรับผมมากๆ และสิ่งที่โชคดีมากกว่านั่นก็คือ ในวันนี้ตอนที่เธอกำลังจะเลิกกับผม ผมได้ซื้อแหวนวงหนึ่งเพื่อที่จะขอเธอแต่งงานในวันนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 2 ปีของเรา แต่เธอก็ดันกลับมาพูดขอเลิกกับผมพอดี ผมคิดดีแล้วใช่ไหมที่ผมให้เขาไปจากชีวิตของผม ชีวิตต่อจากนี้ผมควรจะทำอย่างไรต่อดี ช่วยผมคิดได้ไหม บางทีผมก็หมดหนทาง

ภาพ / เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsara

ไม่อนุญาตให้คัดลอก

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here