ทหารลาดตระเวนเล่า หลงในป่าพิศวงนับได้ 5 วัน แต่พอออกมาแล้วไม่ใช่
ตัวผมเองนั้นเป็นทหารลาดตระเวนชายแดน ในตอนนั้นกองทหารของผมหลงเข้าไปที่ป่าลึก แล้วก็หาทางออกมาไม่ได้ ติดป่าอยู่ในนั้นประมาณ 9 วัน และค้างคาวตัวที่เห็นในรูปก็คือว่า ในเย็นวันที่ 3 ที่กองทหารของผมอยู่ในป่า พวกเรากำลังทำเปลนอน ได้ทำอยู่ใกล้ธารน้ำเล็กๆ แล้วในตอนนั้นผมเองก็ปวดท้องมาก เลยไปทำธุระส่วนตัวไกลหน่อย
ตอนนั้นผมทำธุระส่วนตัวอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงแปลกๆบนต้นไม้ มันเหมือนคนกำลังคุยกันอยู่บนต้นไม้ เป็นเสียงผู้หญิงแล้วก็ผู้ชาย
ซึ่งแรกๆผมเองก็คิดว่าจะต้องเป็นข้าศึกแน่ๆ ผมก็เลยหยิบมีดพกออกมา ออกมานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ แล้วก็แอบฟัง พอฟังไปฟังมา ก็จับใจความว่า มันเป็นเสียงผู้หญิง แต่ก็ยังงงๆอยู่ว่ายังไง พอฟังไปสักพักผมเริ่มไม่แน่ใจว่าไม่ใช่เสียงผู้หญิงอย่างแน่นอน
ผมได้ยินพูดภาษาอะไรไม่รู้ เหมือนบทสวดอะไรสักอย่างนึง
แล้ว ขนะนั้น ผมโดน ทากกัด ที่ คอ เลย สะดุ้ง ไปเหยีบ กิ่งไม้ดัง แกรก แล้ว เสียงบนต้นไม้ก็ค่อยๆ เงียบลง แล้วก็มีเสดไม้หล่นลงมาที่ พื้น ทันใด นั้น ผม รีบ ชัก ปื น พก ออก มา แล้วหัน ไป ยิง ใส่ 5 นัด ด้วยกัน ขณะที่ผม ยิงสวน ไป นั้น ได้ยิย เสียง ผู้ หญิง กรีด ออก มา และ เสียงกรีด นั้นดังกว่า เสียง ปื นของผมอิก
ใน สิ่งที่ ผมเห็น ตอนนั้นก็คือว่า ผมเห็น ขาผู้หญิง ค่อยๆ กลาย เป็น ขาค้างคาว แล้ว ใน ขณะ นั้น ทหาร กองร้อย ที่ได้ยิงเสียง ปื น ก็ วิ่งมา ถึง ผม พอดี แล้วก็สาด ไฟ ฉาย ส่องไป ที่ ต้น ไม้ เห็น เป็น ค้างคาว ตัวไหญ่ ประ มาน 3 เมตร บิน ออกไป จาก บน ต้นไม่ แต่ก็เห็นกัน ไม่ ชัด แต่กะขนาด แต่ น่าจะประมานนั้นบิน ออกไป 2 ตัว แล้วก็มีโลหิต ที่ ผมยิงโดน เป็นโลหิต สี ดำดำ กลิ่นเหม็นสาบมาก หยดตามต้นไม้ต้นนั้นลงมา แล้วทุกคนที่เห็นก็ ตกใจในสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ แล้วขนะนั้น ทหาร นายนึกก็พูดออกมาว่า มันเป็น ค้างคาวผีแล้วผมก็บอกว่า ผมมันใจว่าผมยิงโดนจังๆ5 นัดแต่มันไม่ ต า ย แล้วผมก็ พูดขึ้นมาว่า พวกเรารีบ กลับ ที่พักกันโดยเร็วที่สุด พอถึงที่พัก ผมก็ได้ไปถามกับ นายทหาร คนที่พูดขึ้นมาตอนนั้น
ผมถามเค้าว่า นายรู้ได้อย่างไรว่ามันคือค้างคาวผี นายทหาร คนนั้น ก็ได้บอกกับผมว่า ผมรุ้ เพราะ ว่า ปู่ ของเค้า เคย เป็น พรานเดินป่าลึกมาก่อน แล้วเค้าก็ได้เล่าว่า มันเป็นค้างคาวของไอพวกอะวิชา ที่ปลุก เสกไห้ สัตว์ ลง คน แล้วคน ก็จะกลาย ล่างเป็น สัตว์ร้าย ที่พวกอะวิชา เอาไวใช้ เพื่อ จะ กำจัดสัตตรู ทุกคนที่เข้าไปในเขตของมัน มันก็คร้ายกับเสือสมิงนะครับ แล้วมันก็เป็น วิชาที่หายสาบสูนไป กว่า 100 ปี แล้ว
วิชานี้ คือจะใช้ภาษา ที่ติดต่อกับโลกวินยาน โดยตรง เป็น ภาษา (กรูโบซ) แล้วนายทหาร คนนี้ก็บอกว่า มันจะ ไม่หยุด จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ที่หลงเข้าไปในเขตุ ของมันจะ ต า ย ทั้งหมด แล้วผมก็ถามกับไปว่า มันจะทำยั่งนั้นเพื่ออะไร นายทหาร คนนั้นก็บอกมาว่า เพื่อ จะเอาวินยาน ของคน ที่มันค่าไปเป็นบริวาน ของมัน แล้วผมก็ถามว่า เรา ต้องทำยังไงถึงจะหนีออกไปจากเขตุของมันได้ นายคนนั้นก็บอกว่า ไม่รุ้คับ แล้วที่ นี้ ผมก็สงสัย มาตั่งแต่แรกแล้วว่าทำไมใน ป่าลึก ป่าทึบยั่งงี้ มันไม่มีเสียง สัตว์ ป่า เลย แม่แต่เสียงจักกะจั่นก็ไม่มี ผมก็เลย สั่งไห้ ทหาร อยู่เฝ้า เวร ยามกัน ชั่วยามละ 7 คน แล้วก็ไปนอน พัก และสิ่งที่ผมเห็นในตอนนั้นผมไม่ได้เล่าไห้ใครฟังเลย
ประมานเวลา 2 ทุ่ม ผมก็ได้ยินเสียง แปลกๆ ที่ต้นไม้ อิกแล้ว ในที่ที่ผมพักอยู่ แล้วมองออกไปไกลๆ ซึ้งตอนนั้นพระจันสว่าง พอที่จะมองเห็นได้ ผมเห็น ร่างผู้หญิงไม่ใส่เสือผ้า ยืนอยู่บนยอดมะพร้าว ไกล ออกไปจากที่ พักประมาน 50เมตร ผมก็สะกิด จ่า คนที่ ยืน อยู่ข้างๆผม ผมก็ชี้ไห้ดู จ่าคนนั้นก็เห็นเหมือนที่ผมเห็น แล้วในขณะนั้น ร่างผู้หญิงคนนั้นก็ลอยขึ้น แล้วกลายเป็น อะไรสักอย่างนึงบินหลบไป ตรงต้นไม้หนาทึบ
สิ่งที่ผมคิดในตอนนั้นคือ งานเข้าแล้ว ผมรีบ ไห้นายทหาร ทุกคนเตียมอาวุทปื นไห้พร้อม แล้วผมก็เดินไปถาม นายทหาร คนที่บอกว่ามันคือค้างคาวผี ผมถามไปว่า เรายิงมันมันจะจายไหม นายทหารตอบกลับมาว่า ไม่ ต า ย แค่สกัดไวชั่วคราว แล้วผมก็ถามกับไปว่า ทำยังไงถึงจะไห้มัน ต า ย เค้าบอกว่า ต้องใช้มีด ที่อาบประจำเดือนของผู้หญิง แทงทะลุหัวใจของมัน ในตอนนั้น ผมเครียดมากว่า เรา ไม่มีผู้หญิง ในตอนนั้น ถึงมีก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้ไหม แล้วนายทหารก็บอกมาว่ายังมีอิกวีธีนึก คือ ใช้ ใช้ไม้ไผ่ชุบน้ามมะพร้าว แล้ว แทงทะลุหัวใจ
ผมรุ้สึกมีความหวังเล็กๆ แล้วก็รีบไห้นายทหารจะนวนนึ่งไปตับไม้ไผ่แล้วไปสอยมะพร้าว ซึ้งไม่ไผ่กับต้นมะพร้าว อยู่ในที่พักของผมพอดีเลยแต่ ผ่ามะพร้าวแล้ว ผมแปลกใจมาก มะพร้าวทุกลูก ไม่มีน้ำเลย แม่แต่ลูกเดียว ก็ได้แค่เหลาไม่ไผ่ไห้มันแหลมแล้วเอา ติดตัวไวคนละอัน ผลัดกันเฝ้ายามจนถึงเช้าก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วพอพระอาทิตย์เริ่มสาดแสง เราก็ได้รีบเก็บของ แล้ว ครบทุกอย่าง ทำไห้เหมือนไม่ไห้มี ใครมาพักที่ตรงนี้แล้วก็รีบ เดินทางออกจากป่านี้โดยเร็มที่สุด
แต่เหมือนกับว่ายิ่งเดิน ก็ ยิ่งลึกเข้าไป สเบียงอาหาร ของพวกเราก็ใกล้ จะหมดแล้ว พวกเราทุกคนเหนื่อยกันมาก พอพระอาทิด ตรงกับศีษะ เราก็ได้ นั่งพัก พันชั่ว ครู่นึงแต่ผม ไม่พัก ผมเดินดู รอบๆ แล้วก็ไปเจอ คน2คน เป็นคนแก่ๆ พกปื นลูกซอง ห้อยไว้ที่หลัง แล้วเค้า2คนนั้นก็ เดิน ตรงเข้ามา ที่กองทหารของพวก เรา พวกเราทุกคน รีบยกปื นหันไปทางชายแก่2คนนั้น คิดว่า ต้องเป็นค่าสึกแน่นอน แต่ ชาย1ใน2คนนั้นก็พูดขึ้นว่า ไม่ต้องกัวค่ามาช่วยพวกเอ็งออกจากป่านี้ พวกเอ็งหลงทางกันเข้ามาในเขตุ ต้องห้ามกันแล้วรุ้ไหม แล้วผมก็สังไห้ทหราทุกคนลดปื นลง แล้วผมก็เดินตรงเข้าไปคุยกับพรานแก่2ท่านนี้ ผมก็ถามเค้าว่า หาพวกผมเจอได้ยังไง แล้วที่นี้ที่ไหน พานก็ตอบกับมาว่า พวกเอ็งเจอค้างคาวผีหรือยัง ผมก็ตอบกับไปว่า เจอแล้วเมื่อวาน ผมยิงปื นสั้นใส่มันไป5นัด แต่มันไม่เห็นอะไรเลย
แล้วพรานก็หัวเราะขึ้นมา แล้วก็พูดออกมาว่า กระสุนธรรมดายิงมันไม่ ต า ย หลอก ต้องเป็น กระสุนกระดูกผี7ป่าช้า เท่านั้นแล้วผมก็ถามกับพรานไปว่า พราน2 คนเข้ามาทำอะไรในป่า กันหลอ เค้าบอกว่า ก็เข้ามา พาพวกเอ็งออกไปแล้วก็มา ค่าไอค้างคาวผีนั้น ผมก็ถามไปว่า พราน มาจากไหนกัน พราน2คนนั้นก็บอกมาว่า พวกเอ็งไม่ต้องรู้หลอก ว่าค่าเป็นใครค่ามาจากไหน ผมก็ถามไปว่าเพราะอะไรหลอ พรานก็บอกว่า ไม่ต้องรุ้หลอกรุ้แค่ว่ามาช่วยพวกเอ็งก็พอ ผมก็ตอบไปว่า ครับ แล้วอค้างคาวผี มันมาจากไหน มันมายังไง แล้วพรานก็เล่นไห้ฟังว่า มันเป็น ค้างคาวผี ของไอพวกอะวิชา ที่ทำผิดกรฎ ของวิชา แล้วกรายเป็นปีศาจร้าย แล้วสิ่งร่างคน ทำไห้คนที่โดน มันสิง เป็น ร่างประทับของมัน พรานก็ถามมาว่า เอ็งเห็นค้างคาวนั้นกี่ตัว ผมตอบกับไปว่า 3 ตัว ครับ พรานก็ทำน่าตกใจนิดๆแล้วก็พูดขึ้นว่า พวกเอ็งเก่งนะ ที่รอดกันมาได้ พรานพูดขึ้นว่า ไอค้างคาวผี พวกนี้ มันร้ายกว่า เสือสมิง ซาง อีกนะ ผมก็ถามพรานว่า พรานพวกผมจะออกจากป่านี้กันยังไงหลอ พรานก็บอกว่า ยังออกไม่ได้ ท่ายังไม่ได้ค่าไอค้างคาวผีนั้น มันรวงตา พวกเอ็งทุกคนไห้หาทางออกไม่เจอ แล้วพวกเอ็งพอจะเห็นร่างตอนที่มันเป็นคนกันไหม
ผมบอกไปว่า ผมเห็น เป็นผุ้หญิง เ ป ลื อ ย กาย แต่เห็นแค่คนเดียว อิก2ตัวผมไม่เห็น พรานก็บอกว่า อืมๆงั้นก็ต้องรีบแล้ว พรานบอกขึ้นมาว่า ไห้หาที่ เป้นที่โล่ง ใกล้ๆธานน้ำ แล้วเป็นที่พักก่อนวันนี้ ผมก็คิดว่า ไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียละ ก็ลองทำตามยั่งที่พรานพูด หลังจากจัดเตียมทุกอย่าเรียบร้อย พราน2 คนนั้นก็ได้เอาสายสินมาร้อมรอบที่ ที่เตียมเอาไว้ แล้วก็รีบนั้งบริกำคาถาอะไรสักอย่างนึงคน แล้วพรานอิกคนนึงก็ได้มาบอกว่า ไม่ว่าอะไรจัเกิดขึ้น อย่าออกไปจากบรินนี้เด็ดขาดแล้วผมก็ได้ถามกับพรานคนนั้นว่า ไอพวกค้างคาวผีพวกนั้นมันจะมีประมานกันกี่ตัว พรานบวกว่า ประมาน 3-4ตัวและมีบริวานที่เป็นผีป่า อิกเยอะ แต่ละตัวอายุมันเป็น อมตะ มันจะกินหัวใจคนเพื่อตัวอายุของมัน ยิงกินเยอะ ยิงแกร่ง พรานก็ได้เล่าว่า มันเคยไปกินคนในหมู่บ้านหลายหมู่บ้าน จนเป็น หมู่บ้านร้าง ทั้งหมดในป่านี้ เเล้วพรานก็ได้เล่าว่า ในป่าเเห่งนี้ เมื่องก่อน มันเป็นป่าลับแล เป็นที่อยู่ของหญิงสาว และ กินนรี กินนร เป็นป่าที่หายสาบสูนไปบนโลก นานมากแล้ว แล้วที่พวกเอ็งหลงเข้ามาได้ ก็เพราะว่า ดวงชตาของพวกเอ็งทุกคนถึงคาดกันหมดแล้วแต่ยังไม่ ต า ย เท่านันเอง ยังดีนะที่ค้า2คนเจอพวกเอ็งกันสะก่อนไม่ยั่งงั้น ต า ย ทั้งหมดนี้แน่นอน ผมก็ถามไปว่า แล้วพราน2คนเข้ามาในป่าแห่งนี้ได้อย่างไร พรานก็ตอบไปว่า ค่า2คนอะเป็นคนมีวิชานะ ก็เลยเดินทางเข้าออกได้ ทันแล้นขนะที่นั่งคุยกับพลานยุก็ได้มีลมพัดมาจากทางไหนก็ไม่รู้ลมแรงมากๆ แล้วก็มีเสียงผุ้หญิงหัวเราะดังมาจากบนฟ้า เห็นเป็นเงาของ สัตว์ รูปร่างคร้ายๆค้างคาว บินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ้งตัวมันไหญ่กว่าที่ผมเห็นครั้งแรกมาก
ถึงจะเห็นแค่แวบเดียวแต่ผมก็กะขนาดมันถูกนะ กางปีกออกมาประมาน 5 เมตรกว่าๆเลย ตัวใหญ่จิงๆ แล้วพรานคนที่นั่งบริกำคาถายุก็ได้หยิมเอามีดหมดออกมาจากกระเป๋าแล้วปักลง ที่ดิน พอปักลงไปนั้น ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดขึ้นมาดังมากเสียงน่ากัวมากจิงๆ พอดึงมีดขึ้นมา เหมือนมีโลหิตไหลออกมาจากรอยที่ปักลงไปด้วย ทหารทุกคน ต่างขวัญเสีย เพราะกัวกันมากๆ และตาค้างในสิ่งที่เห้นยุต่อน่า โลหิตไหลออกมาจากแผ่นดินได้ยังไง แล้วเป็นลักสนะ คร้ายกับที่ผมเห็นตรงต้นไม่ที่ผมยิงโดนมันเลย กลิ่งสาบของโลหิตนั้นแรงมาก แล้วพรานคนนั้นก็เอา น้ำมนเทลงไปตรงกองโลหิตนั้น โลหิตนั้นก็สลายเป้นไอดำดำ รอยหายไป แล้วมีมีลูกตาสีแดง มองมา รอบตัวเป็นร้อยๆ ดวง เป็นแววตาของ ผี ป่า นั่นเอง แล้วพรานก็บอกว่า เอาลูกกะ สุน ไปชุบน้ำมนต์แล้วยิงใส่มัน พรานตะโกนบอกทุกคนว่า ไม่ต้องกลัวมันมันเข้ามาในเขตุสายสินไม่ได้ แล้วทุกคนก็ต่าง เอาลูกกระสุนปื นมากองรวมกันแล้วพรานก็ได้พรมน้ามมนต์ ใส้ลูกกระสุนปื น ไห้ แล้วก็ได้กระ หน่ำ ยิงใส่ ดวงตาที่อยู้รอบๆตัว แล้วก็มีเสียงกรีดร้องของคน ออกมารอบๆตัว ทั้งหญิงทั้งชาย เสียโหยหวน ขนผมลุกไปทั้งตัวแล้วนะ ผมกลัวมาก แต่พรานก็ตะโกนบอกเรื่อยๆว่า พวกเอ็ง อย่าไปกัวมัน ท่ารอด ออกไปจากคืนนั้ได พวกเอ็งทุกคนก็กลับได้บ้านกันแน่นอน อย่าไปกลัวพวกมัน ทหาร ทุกนาย ยิงออกไปอย่างบ้าครั้ง จนแสงสีแดงจากแววตาพวกมัน หายไปทั้งหมด แล้วทีนี้ ผมก็มอง ออกไป รอบๆ ตัว เป็นเงา ดำๆ วิ้งไปวิ่งมาแล้วก็ค่อยๆสลายไป มองออกไปไกลขึ้นอิก เห็นเหมื่อน เดิม คือ เห็น ผู้หญิงยินยุบนยอด ไม้ ไกลออกไปประมาน80 เมตร ได้ ที่เห็นเพราะว่ามันเป็นที่โล่ง แล้วแสงจัน สว่างมาก ในตอนนั้น แต่มี่นี้ ไม่ใช่ คนเดี่ยว เห็น ผู้ชาย อิก2คนยืนยุข้างๆ บนยอดไม่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ใช้ผู้ชายรึป่าวแต่มันไกลมาก แลยมองไม่ค่อยชัด มันค่อยๆ กระ โดด มาพร้อมกัน3 ตัว แล้วก็กลายร่างเป็น ค้างคาว ตัว เล็ก2 ตัว ตัวไหญ่ 1 ตัว ตัวเล็ก บีกกว้างประมาน 3 เมตร ตัวไหญ่ บิกมัน กว้าง5 เมตร บิน ตรงมาทางพวก เรา ในขณะนั้น พราน ที่ นั่ง บริงกำคาถายุ ได้ หยิบ เอา ปื น สั้น ที่ วางยุข้างน่า ผมเห็นมันเป็น ปื นรูปร่าง คล้ายๆกับ ปื น ของ สมเด็จพระนเรศวร แล้วพรานก็ยิงออกไป
ตอนขณะ ที่ มันกำลังบิน เข้ามา แล้วกำมีเสียง ผู้ชาย ร้องด้วยความเจ้บปวด แล้วก็ ร่วงมา ใน วงสายสิน มันเป็นค้างคาวตัวที่เห็นในรูป แต่อิก2 ตัวบินหนีไป แต่ได้ยิน เสียงผู้หญิงตอบกลับมาว่า กุไม่ปล่อยพวกมืงไวแน่ มันเป็นเสียงที่แปลกปะหลาดมาก มันคร้ายๆกับเสียงคนหลายๆคนพูดออกมาจากจุดๆเดียว เเต่แล้วก็บินหายไปทางไหนก็ไม่รู้ พรานคนนั้นก็หยิงมีดหมด เดินตรงไปที่ซากค้างคาวตัวนั้นแล้ว เอามีด ควักหัวใจมันออกมา แล้วกำ สับไห้มันขาดครึ่ง เอาใส่ ไห 2 ไห ไป ฝังดิน ในทิดตะวัน ออก 1 ไห ทิตตะ วันตก1 ไห แล้วก็ตรึงซาก ค้างคาว ไว้ เพื่อ ปรดปล่อย ดวงวินยานที่มันค่า แต่ก็ค่ามันได้แค่ตัวเดียว แล้วพรานก็บอกว่า พวกเอ็งทุกคน ไม่ต้องกลัว คืนนี้ พวกเอ็งนอนพักกันได้ละ เดียวพรุ้งนี้ค่า2คนจะทำพิธี เปิดป่าส่งพวกเอ็งกลับบ้านกัน แล้วผมก็ สั่งไห้ทหารทุกนาย ไปนอน พักกัน แล้วผมก็มานั่งคุยกับพราน 2 ท่านนั้น ถามว่า แล้วไอพวกค้างคาว ผี มัน จะไม่กลับ มาอิกหลอ พรานตอบกลับว่า คืนนี้ อะไม่มา แต่คืนพรุ้งนีอะ มาแน่ แล้วพลานก็บอกว่า พรุ่งนี้ อะ พวกเอ็ง ทุกคนต้องกลับ ไห้ถึง ค่าย กัน มิฉะนั้น จะ ต า ย กันทั้งหมดนี้แหละ
แต่พวกเอ็งไม่ต้องห่วง ค่า2 คนหลอก เดี่ยวค่าจะเปิดป่าไห้พวกเอ็ง2คนกลับบ้านกัว เวลา แสงพระอาทิด ส่อง ค่าจะเริ่มทำพิธี เปิดทาง กลับบ้าน ไห้พวกเอ็ง แต่ค่า2คน ยังกลับไม่ได้หลอกนะ คงเดินนำทางพวกเอ็งไปไม่ได้ ไห้พวกเอ็ง เดินไป ทาง พระ อาทิดขึ้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ห้ามไห้ใครคนใดคนนึน หันหลังกลับมามองเด็ดขาด แล้วค่า2คนจะอยุ่ที่นี้ จัดกานกับไอค้างคาวผี 2ตัวนั้นเอง พวกเอ็งต้องรีบกลับไปกันไห้เร็วที่สุด พอแสงอาทิดส่อง พรานก็ได้ทำพิธี เบิกทาง แล้วผมก็สั่งไห้นายทหารทุกคน จัดขบวน แล้ว แล้วผม ก็สั่งไห้ทหารทุกคนปลด สัมพาระ ทุกอย่างทิ้งไห้หมด ทั้งปื นทั้งกระ เป๋า และ ก็ไห้ สะเบียงที่เหลือ กับพลาน2คนนั้นไว้ เป็น ของขอบคุนจากพวกเราทั้งหมด แล้วก็รีบเดินมาทาง ทิด ตะ วัน ออก แล้วสั่งกำ ชับทุกสิบ เก้า ว่า อย่า หันไปมองข้างหลัง เดินไป ผลัดกันตะโกนไป อย่าหันไปมองข้างหลัง แล้ว พอ เดิน ผ่าน ไป ก็ได้ เจอ ถนน พวกเราทุกคนรีบวิ้งไปที่ ถนน แล้วต่างคนต่างดี ใจ กระโดด กอด กันทั้งน้ำตา แล้วก็มี รถ ทหารของค่ายพวกผม ผ่านมาพอดี พวกเราทุกคน ก็ได้ กลับ ค่าย กัน แล้ว ผมก็น้ำ เรื่องนี้ ไปเล่ากับ นายพล เป็นการส่วนตัว นายพล ถามขึ้นมาว่า กองทหาร หายไปไหนกันมาตั้ง9วัน ผมแปลก ใจมาก เพราะว่า ผมเห็น พระ อาทิดขึ้นลง แล้วนับได้แค่5วันเอง แล้วนายพล ก็ถามมาว่า เจอพลานแก่2 คนนั้นใช่ไหมถึงออกมาได้ ผมตกใจมาก ในคำพูดของนายพล .. ผมขอตั่ง ชื่อเรื่อง ว่า แ ด น พิ ษ ว ง อันที่จริงผมอยากโทมาเล่นไห้ทางเดอะช๊อกด้วยตัวเองนะครับ อันนี้เป็นแค่เรื่องที่ผม ย่อ ไห้สั้นลง แต่ท่าจะเล่า จริง1 ชั่วโมงก็ไม่ จบ ขอบคุนครับที่อ่าน จนจบ ขอบบอกว่า มันคือ เรื่อง จริง ที่ผมผ่าน มาแล้ว
ขอขอบคุณ : THE SHOCK 13