แจกวิธีทำ ‘น้ำปลาร้า’ แซ่บนัว กลิ่นหอมอร่อยมาก บอกหมดทุกขั้นตอน

0

แจกวิธีทำ ‘น้ำปลาร้า’ แซ่บนัว กลิ่นหอมอร่อยมาก บอกหมดทุกขั้นตอน

ขอบอกเลยว่าสูตรที่เรานำมาแจกเพื่อนๆกันในวันนี้ รับรองว่าอร่อยมาก มีคนขอสูตรนี้เข้ามากันเยอะมาก แซ่บนัว มีกลิ่นหอมกลมกล่อม ใครทำเก่งแล้วสามารถทำขายสร้างรายได้ดีงาม ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก เรามาดูกันเลยว่าเขาทำกันอย่างไร มีเคล็ดลับอะไรบ้าง

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

1. ปลาร้าใช้ทั้งเนื้อและน้ำ 1 ก.ก. (ปลาร้าปลากระดี่จะไม่ค่อยอร่อยค่ะ ไม่ค่อยนัวกลมกล่อม เด็ดสุดจะเป็นปลาร้าตัวเล็กจากอิสานและทางเหนือค่ะ)

2. น้ำสะอาด 1 ก.ก. (ปริมาณของน้ำที่เติมขึ้นอยู่กับคุณภาพและความเค็มของปลาร้าที่ใช้ ลองชิมดูถ้าเค็มมากไปก็เติมน้ำอีกตามชอบ)

3. กะปิ 150 กรัม

4. น้ำกระเทียมดอง 100 กรัม + เนื้อกระเทียมดอง 3 หัว

5. กระเทียมไท ยบุบให้แตก 3 หัว (ล้างให้สะอาดใส่ทั้งหัวไม่ต้องแกะเปลือก)

6. น้ำตาลปี๊ป ½ ก.ก.

7. สับปะรด 50 กรัม

8. ผงโอวัลติน 2 ช้อนโต๊ะและผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อให้สีเข้มสวยและกลิ่นหอม (สูตรดั้งเดิมใส่เม็ดกระถิ่นแก่คั่วแต่คงอาจจะหายากไปเค้าเลยมาปรับเปลี่ยน ยังไม่เคยลองแบบใส่เม็ดกระถินคั่วค่ะ)

9. ใบหม่อนสดแก่ๆ 25 ใบ (ถ้าไม่มีใช้ชาใบหม่อนแทน 2 ช้อนโต๊ะ) หรือจะใช้ใบมะขามหรือใบกระถินแก่ๆก็ได้

ขั้นตอนในการทำ

1. ให้เรานำทุกอย่างที่เราได้เตรียมไว้เทลงใส่หม้อต้มเปิดไฟปานกลาง

2. จากนั้นให้เราต้มเคี่ยวจนเนื้อปลาร้าของเราเปื่อยและยุ่ยเหลือแต่ก้าง ต้มไปประมาณ 30 นาที จากนั้นให้ยกลงจากเตาทิ้งพักไว้ให้เย็น

3. เมื่อหายร้อนแล้วเรานำมากรองน้ำต้มด้วยผ้าขาวบาง กรอกใส่ขวดพร้อมเก็บใส่ตู้เย็น

เคล็ดลับการตำมะละกอ

– โขลกพริกกับกระเทียมให้พอแหลก (ส่วนตัวถ้าเป็นส้มตำชอบพริกแห้ง)ใส่มะเขือเทศ มะนาว น้ำตาล มะกอก มะเขือเปราะ มะเขือเหลือง น้ำปลาร้าต้ม น้ำตาลทรายอีกเล็กน้อย น้ำมะขามเปียก ใครทานผงชูรสก็ใส่เลยค่า (ถ้าชอบเนื้อปลาร้าแบบไม่ต้มหรืออีสานเรียกเป็นต่อนๆก็สามารถใส่ลงไปได้เลยค่า)

– ตำเบาๆพร้อมใช้ทัพพีคนพอเข้ากันแล้วใส่มะละกอใบกระเทียมตำคลุกเคล้าเบาๆอย่าตำแรงเส้นจะช้ำไม่อร่อยค่ะ ตักใส่จานโรยหน้าด้วยเม็ดกระถิน รับรองแซ่บ

*เส้นมะละกอถ้าจะให้กรอบอร่อยหลังจากสับหรือขูดเป็นเส้น แล้วใส่น้ำแข็งลงไปคลุกเคล้าสักห้าหกก้อนหรือจะใส่น้ำเย็นจัดทิ้งไว้สักพัก ต่อให้มะละกอเหี่ยวแค่ไหนเส้นก็จะกรอบเด้งมากค่า

*ถ้าเป็นตำขนมจีนใช้ขนมจึนแป้งหมักและใส่พริกสดและกระเทียมเยอะหน่อย จะหอมแซ่บกว่าพริกแห้งค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Karuna Lo

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here