แม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิต เปิดร้านอาหารขาดทุน-หนี้ท่วม แต่ชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อมาพบโจวเหวินฟะ

0

แม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิต เปิดร้านอาหารขาดทุน-หนี้ท่วม แต่ชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อมาพบโจวเหวินฟะ

การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมากมายที่ต้องดูแลและรับผิดชอบอย่างหนัก อีกทั้งยังมีปัญหาต่างๆตามมาที่จะต้องดูแลและจัดการเองทั้งหมด

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวได้สู้ชีวิตหลังจากที่ตนเองได้เสียสามีไป เธอจึงต้องกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องต้องมาดูแลลูกๆ 2 คนเพียงลำพัง เธอจึงตัดสินใจกู้เงินทองจากญาติๆของเธอมาเปิดเป็นร้านอาหาร แต่เธอเองก็ค้าขายไม่สู้ดีนัก จนมาวันหนึ่งเธอขายของและได้พบกับโจวเหวินฟะ หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปจากเดิมในทันที

เมื่อได้ย้อนเวลาไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ครูสาวชาวฮ่องกง หวังลี่ลี่ ชีวิตของเธอที่มีอยู่นั้นได้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะเมื่อสามีของเธอผู้ที่เป็นเสาหลักเลี้ยงดูคนในบ้าน ได้จากไปอย่างที่เธอเองยังไม่ได้ทันได้ตั้งตัว เธอได้บอกว่าเหมือนโลกทั้งใบที่เธอมีนั้นพังลง ไม่เหลืออะไร แต่เธอก็ต้องสู้ชีวิต เพราะเธอมีลูกอีกทั้ง 2 คนที่ต้องดูแล เธอเองจึงได้ตัดสินใจออกจากอาชีพครูที่ทำอยู่นั้น มาเปิดร้านอาหารเล็กๆ เพื่อหารายได้ แต่แล้วการค้าขายนั้นก็ไม่ได้ดีและเป็นไปอย่างที่คิด

แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ที่สำคัญความขยันและอดทนของเธอยังเป็นอะไรที่หลายคนในชุมชนกล่าวขวัญถึง และในที่สุดเรื่องราวของเธอก็ไปถึงหูของ โจวเหวินฟะ ซุเปอร์สตาร์ชื่อดังชาวฮ่องกง เขามีส่วนทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จนเธอเองก็ไม่เคยคิดฝันมาก่อน

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 เรื่องราวของ หวังลี่ลี่ ได้ถูกเปิดเผยครั้งแรกผ่านตัวอักษรโดยเว็บไซต์เน็กซ์ชาร์ก ซึ่งได้บอกเล่าว่า หลังจากที่สามีเสียชีวิต ลี่ลี่ก็ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจำนวนหนึ่งในทุกเดือน แต่เงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่เธอแบกรับ เธอจึงได้กู้เงินจากญาติจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 4 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวหลอด ในเมืองไทโป ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮ่องกง

แต่กิจการไม่ค่อยดีนัก อาหารขายได้น้อย ทำให้มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ และเธอขายขาดทุนทุกเดือน ในแต่ละเดือนขาดทุนไปกว่า 29,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 117,000 บาท แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ ยังคงกัดฟันสู้ค้าขายต่อไป และพยายามปรังปรุงฝีมือให้ดียิ่งขึ้น

ลี่ลี่ยังบอกเล่าผ่านเว็บไซต์เจาเปา ด้วยว่าในทุกวันเธอจะตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เดินข้ามทะเลไปยังแผ่นดินใหญ่ เพื่อฝึกฝนการทำก๋วยเตี๋ยวหลอดจากสามีภรรยาคู่หนึ่งในนครเซินเจิ้น จนมีฝีมือเป็นที่ยอมรับ เธอเป็นคนขยันอดทน ทำงานหนัก และตั้งใจทำหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ในเรื่องนี้ผู้คนในชุมชนต่างยอมรับ แต่ถึงเธอจะพยายามขนาดไหนร้านของเธอก็ยังมีลูกค้ามาอุดหนุนน้อยอยู่ดี

แล้ววันหนึ่งขณะที่เธอกำลังเตรียมร้านเพื่อขายก๋วยเตี๋ยวหลอดเหมือนทุกๆ วัน ซึ่งในวันนั้นเป็นวันสุดสัปดาห์ กับมีลูกค้าต่อคิวกันยาวมากที่หน้าร้านของเธอ ซึ่งมันต้องไม่ใช่เรื่องปกติเป็นแน่ และในเวลานั้นเองก็มีลูกค้าคนหนึ่งที่ยืนต่อคิวอยู่ เอ่ยปากทักทายเธอ เมื่อลี่ลี่หันไปดู จึงทราบว่าเขาคือ โจวเหวินฟะ นั่นเอง

สำหรับในเรื่องนี้ ลี่ลี่ ยังได้กล่าวด้วยว่า “วันนั้นเป็นช่วงสุดสัปดาห์ค่ะ มีลูกค้าต่อคิวหน้าร้านยาวเหยียดเลย ตอนนั้นฉันได้ยินคนตะโกนเรียก พอหันไปดูก็พบว่าเขาคือ โจวเหวินฟะ ฉันรู้สึกตกใจมาก ความปลื้มมันท่วมท้นหัวใจไปหมด เพราะไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะมีดาราใหญ่ดั้นด้นเดินทางมาเยือนร้านเล็ก ๆ ของฉัน ซึ่งมันตั้งอยู่ในย่านห่างไกล ไม่ได้โด่งดังอะไรเลย ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินค่ะ และหลังจากนั้น ผู้คนมากมายก็เดินทางมาที่ร้าน ซึ่งมันเป็นเพราะโจวเหวินฟะ เขานำพาโชคลาภมาสู่กิจการของฉัน และฉันรู้สึกขอบคุณเขาอย่างที่สุดค่ะ”

ข้อมูลจากโกลบอลนิวส์ ยังระบุว่า โจวเหวินฟะช่วยโฆษณาร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดเล็ก ๆ ของเธอ รวมทั้งจะพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผู้คนเดินทางมาลองชิมฝีมือของลี่ลี่ และส่วนใหญ่ติดใจในฝีมือของเธอ ร้านของลี่ลี่จึงกลายเป็นที่รู้จัก มีเหล่าคนดังมากมายแวะเวียนมาเสมอๆ โดยเฉพาะ โจวเหวินฟะ เขาจะอยู่เป็นประจำ

ร้านของลี่ลี่ กลายเป็นร้านประจำของโจวเหวินฟะ และทำให้ร้านเล็กๆ ของเธอมีลูกค้าแน่นทุกวัน สร้างรายได้ให้กับลี่ลี่มากมาย จากร้านที่ขาดทุนทุกเดือนกลายเป็นมีกำไรอย่างท่วมท้น ลี่ลี่ยังเปิดเผยอีกว่า โจวเหวินฟะเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน มีจิตใจที่เมตตาเป็นอย่างมาก เธอต้องการขอบคุณเขาโดยการมอบเงินเล็กๆ น้อยๆ เป็นการตอบแทนในน้ำใจ และไม่คิดค่าอาหาร แต่เขาปฏิเสธ ไม่ยอมรับเงินหรืออาหารฟรีจากเธอ ลิ่ลี่ทราบซึ่งในน้ำใจเขาเป็นอย่างมาก

และด้วยความซาบซึ้งใจที่เกิดขึ้น และประทับใจที่เขาไม่ยอมรับค่าตอบแทนใดๆ เลย ลี่ลี่จึงนำเงินที่หามาได้ส่วนหนึ่งไปบริจาคเกี่ยวกับการกุศล เพื่อสนับสนุนเด็กๆ ที่เกิดจากครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ให้มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเธอจึงเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ว่ายากลำบากแค่ไหน เงินจำนวนนี้นอกจากจะได้ช่วยเหลือเด็กๆ แล้ว ยังถือเป็นการตอบแทนบุญคุณของโจวเหวินฟะ เพื่อให้เขาได้บุญกุศลไปกับเธอด้วย

ขอบคุณภาพจาก : zaobao

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here