การไม่ทานข้าวมื้อเย็น ทำให้ไม่แก่เร็ว เรื่องดีสุดๆที่ไม่เคยรู้

การไม่ทานข้าวมื้อเย็น ทำให้ไม่แก่เร็ว เรื่องดีสุดๆที่ไม่เคยรู้

เราเชื่อเลยว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้ผ่านๆมาบ้างแล้วกันใช่ไหม แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การที่เราไม่ทานมื้อเย็นนั้นมันเป็นเรื่องดีสุดๆ งงกันแล้วใช่ไหมว่าทำไมถึงเป็นเรื่องดี ในวันนี้เราไปทำความเข้าใจกัน

ทำอย่างไรถึงจะไม่แก่ ไม่อ้วน และอายุยืน คำตอบนั้นก็คือการ “กินสายกลาง”

ปล. วิธีเหล่านี้ ทำให้ไม่แก่เร็ว แล้วช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ได้

การกินสายกลางก็คือ กินมื้อเช้าและมื้อเที่ยง โดยการงดมื้อเย็น

สมมุติว่าเรากินไข่ลวก 1 ฟองโตๆ โดยมีไข่แดง 50 กรัม ในไข่แดงก็มีคอเลสเตอรอล 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี ฉะนั้นแล้ว 50 กรัมก็ให้พลังงาน 450 แคลอรี่ เราจะต้องออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานนี้ โดยการปั่นจักรยานด้วยความเร็ว 60 รอบต่อนาที ปั่นอยู่อย่างนั้น 60 นาที จนรู้สึกเหนื่อยเหงื่อไหลท่วมตัว แต่เราใช้พลังงานเพียงแค่ 300 แคลอรี่เท่านั้น

เข้าใจกันแล้วใช่ไหมว่า ไข่ใบเดียวยังใช้ไม่หมด

ฉะนั้นแล้ว ถ้าเรากินอะไรเข้าไปมากๆต่อวัน สิ่งเหล่านั้นมันก็จะสะสมไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นไขมันส่วนเกิน และทำให้เราอ้วน พอเราเริ่มอ้วน ภูมิต้านทานก็จะเริ่มลดลง สุดท้ายก็ทำให้เรามีรอยย่นบริเวณใบหน้า สุขภาพร่างกายก็เริ่มไม่ดี

วิธีการกิน กินอย่างไรให้ไม่แก่เร็ว ใบหน้าดูอ่อนเยาว์

1 ค่อยๆลดปริมาณอาหารเย็น ทีละน้อยๆอย่างเช่นการลดการกินข้าว 2 จานให้เหลือ 1 จานครึ่ง ทำไปเรื่อยๆสัก 1 เดือน โดยมีข้อแม้ว่าหลังอาหารเย็นห้ามกินอาหารใดๆยกเว้นน้ำเปล่า วิธีการนี้จะทำให้กระเพาะเราเริ่มชิน ทำไปเรื่อยๆประมาณ 3 เดือนก็สามารถงดอาหารเย็นได้ หน้าท้องก็จะแบนราบ

2 ปกติแล้วเป็นคนที่กินอาหารเย็นตอน 2 ทุ่ม ก็ให้ลดเวลามากิน 1 ทุ่ม ทำไปเรื่อยๆจนเหลือ 6 โมง 5 โมง 4 โมงเย็น

3 แนะนำว่าให้กินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็น โดยใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ในถ้วยน้ำเปล่า คนไปเรื่อยๆแล้วดื่มทันที ดื่มน้ำตามอีกประมาณ 3-4 แก้ว

4 กินผักผลไม้มื้อเย็น จะช่วยให้ร่างกายได้รับการพักผ่อน ช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารต่างๆที่ได้รับจากการกินมื้อเช้าและมื้อกลางวันไปใช้งาน และแน่นอนว่าการกินผักผลไม้ในมื้อเย็น จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดี ทำเช่นนี้ร่างกายจึงบริสุทธิ์ในทุกวัน

เขียน / เรียบเรียงโดย : Postsara

ไม่อนุญาตให้คัดลอก