เขาให้ข้าวกับหญิงคนหนึ่ง” แต่โดนไล่ออก 3 วันต่อมาหัวหน้าต้องมาเชิญเขากลับไป
เขาให้ข้าวกับหญิงคนหนึ่ง" แต่โดนไล่ออก 3 วันต่อมาหัวหน้าต้องมาเชิญเขากลับไป
เมื่อไม่นานมีการนำเสนอเรื่องราวของบุคคลท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า
โจ เขาเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่มาทำงานเป็นผู้ช่วยคนครัว อยู่ที่โรงแรมในตัวเมือง สำหรับในวันนี้แขกออกจากร้านไปหมดแล้ว โจก็กำลังจะจัดการกับอาหารที่เหลืออยู่ในครัว
แต่ทันใดนั้นเขาได้ยินกับหญิงชราคนหนึ่ง พี่กำลังเดินด้อมๆมองๆ มาขอข้าวกิน หญิงชราคนนั้นบอกว่าไม่ได้กินอะไรมาแล้ว 1 วันเต็ม
โจ ซึ่งเป็นเด็กใจดี เขาเห็นข้าวที่เหลืออยู่ ที่กำลังจะทิ้ง ก็เลยเอาไปให้หญิงชราคนนี้กินดีกว่า หญิงชราคนนั้นก็เลยปากขอบใจเขาโดยไม่หยุดไม่หย่อน
แล้วก็ยื่นชามขอข้าว เขาก็ได้ตักให้จนเต็ม แล้วก็เอาถุงพลาสติกนั้นใส่หมั่นโถให้แกเก็บไว้กินด้วย แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหญิงชราคนนั้นไม่ยอมรับ เขายังบอกว่าอยากจะกินแค่ข้าวที่เหลือก็พอ
ในตอนที่หญิงชราคนนั้นกำลังจะเดินจากไป ผู้จัดการใหญ่ของร้านก็เดินเข้ามาพอดี...
เข้าใจแล้วจะรู้เลย หัดอยู่คนเดียวให้ได้ เพราะไม่มีใครเคียงข้างเราได้ตลอดไป
เข้าใจแล้วจะรู้เลย หัดอยู่คนเดียวให้ได้ เพราะไม่มีใครเคียงข้างเราได้ตลอดไป
ทำไมเราจะต้องหัดอยู่คนเดียวให้ได้ มันเป็นเพราะว่าคงไม่มีใครที่สามารถยืนอยู่ข้างกายเราได้ตลอดไป ดังนั้นถ้าหากเราเริ่มต้นด้วยการหัดอยู่คนเดียว ลองดูบ้าง จะได้รู้อะไรหลายๆอย่าง เวลามักจะพรากใครหลายคนออกไปจากชีวิตเรา ในแบบที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว จึงไม่แปลกที่ในบางทีรู้สึกเคว้งคว้างอยู่คนเดียว มันก่อตัวขึ้นภายในจิตใจที่มีความอ่อนแอ
ดังนั้น การใช้ชีวิตคนเดียวให้เป็น คือเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่คนเราจะต้องหัดเรียนรู้เอาไว้เพราะว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไปไม่เว้นแม้แต่ตัวของเราเองด้วยก็ตาม เอาแน่เอานอนไม่ได้กับใจของคนอื่น เพราะใจคนเรา สามารถเปลี่ยนไปอย่างเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ในทุกวินาที และเราไม่มีทางที่จะรับรู้ได้เลยว่า เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งของชีวิต ใครบ้างที่จะยังคงอยู่เคียงข้างกันไปตลอด
การเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง จึงอาจมีส่วนช่วยให้สิ่งที่ต้องเผชิญหน้านั้น ไม่ใช่เรื่องยากเกินรับมือไหว ไม่ต้องเป็นภาระหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร...
นี่แหละหนาชีวิตจริง หนุ่มวิศวะจบใหม่ไฟแรง โดนไล่ไปก่ออิฐแข่งคนงานพม่า
นี่แหละหนาชีวิตจริง หนุ่มวิศวะจบใหม่ไฟแรง โดนไล่ไปก่ออิฐแข่งคนงานพม่า
บอกแล้วว่าชีวิตของคนเรานั้นไม่แน่นอน ชีวิตมันไม่ได้ง่ายจริงๆ เวลาเรียนกับเวลาทำงานแตกต่างกันกันอย่างสิ้นเชิง แทบจะไม่เหมือนกันเลยสักนิด ใครหลายคนก็คงคิดว่าจบมาแล้วก็คงมีงานทำนั่งห้องแอร์สบายๆ จบมาแล้วก็จะได้งานนี้ตรงกับสายงานที่เรียน แต่ทว่าหลายคนเมื่อเจอกับชีวิตจริงแล้วไม่พบกับสิ่งเหล่านั้น
บางคนคงคิดว่าจบมาจะได้ทำงานสบายสบาย เพราะว่าส่วนมากมันก็ไม่ได้ยากเสมอไปอย่างที่คิด จนกระทั่งมาเจอเรื่องราวของหนุ่มไฟแรงที่กำลังจบใหม่ๆ แล้วไปสมัครงานพร้อมกับเรียกเงินเดือนขั้นต่ำแต่เขาได้พบเจอกับคำพูดบางอย่าง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในไซต์งาน เกิดขึ้นที่ office โครงการขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่กำลังสร้างอยู่ โดยมีเด็กจบใหม่มาสมัครงานและมีคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์และได้พูดคุยกันว่า
คนสัมภาษณ์ : คุณอยากได้เงินเดือนที่เท่าไหร่????
ผม : ผมขอเงินเดือนแค่เริ่มต้นตามอัตราวิศวะจบใหม่ก็พอแล้วครับ
คนสัมภาษณ์ : 12,000 บาท น่ะเหรอ????
ผม...
ทำอย่างไร เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ชอบหน้า
ทำอย่างไร เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ชอบหน้า
แน่นอนว่าทุกคนต่างก็ต้องมีบุคคลที่เราไม่ชื่นชอบหน้าไม่ถูกชะตา ขัดหูขัดตาไปซะทุกอย่าง แต่เราจะทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกับคนเหล่านี้ได้ จะทำอย่างไรให้เราใช้ชีวิตในของเราเองไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นเขา….
หากเราเกลียดก็อย่าไปมอง หากเราไม่ชอบก็อยากไปดู
เมื่อเราไม่ได้ใส่ใจคนอื่นมากเกินไป ก็ไม่มีใครที่จะสามารถมาทำร้ายจิตใจของเราได้
ชีวิตของคนเราในแต่ละวันนั้น อาจจะต้องพบเจอกับผู้คนมากมาย
และคนที่เราได้พบเจอนั้น อาจจะเป็นคนที่เราไม่ชอบหน้า หรือเขาไม่ชอบเรา
หรือแม้กระทั่งเจอหน้าแล้วไม่ถูกชะตา
คนเหล่านี้อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราอารมณ์เสีย
ทำให้เราไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตเลยก็ได้
ทำให้เรามีอารมณ์ที่โกรธ หงุดหงิด มีความอิจฉา
ซึ่งเป็นอารมณ์ในด้านลบของจิตใจเรา
หรือในบางครั้งก็มากเกินไป จนจะทนไหวอยากจะหนีไปให้ไกล
เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คงได้เกิดขึ้นกับทุกคน
แต่ถ้าหากว่าเราลองกลับมาคิดดูดีๆกับบุคคลต่างๆที่เราพบเธอนั้น
เขาไม่ได้ร้ายจนเกินที่เราจะพูดดีด้วยไม่ได้
แต่เป็นเพราะที่เราเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เก็บพฤติกรรมเอาไว้ไม่อยู่
ทำให้ด้านลบในจิตใจของเราได้เปิดเผยออกมา
คิดปรุงแต่งจนมากเกินไป
จนเราได้มองข้ามในสิ่งดีๆที่คนเหล่านั้นมีอยู่
หากเรายิ่งเกลียด ยิ่งเฝ้ามอง ยิ่งไม่ชอบ ยิ่งจับผิด
การที่เราไปเฝ้ามองพฤติกรรมของเขา แบบนี้ตัวเรานั่นแหละที่ผิดปกติ
ไม่ว่าเขาจะทำอะไรที่ไหนอย่างไร เราก็อยากรู้อยากเห็นไปซะทุกสิ่ง
พอเราได้รู้ได้เห็นเราก็จะมีความรู้สึกขัดตาชวนให้หงุดหงิด
และถ้าหากว่าเขาทำดี เราก็จะไปคอยจับผิดว่าเขาคนนั้นสร้างภาพหรือเปล่า
เขาคงเป็นคนที่ไม่ใช่ในสายตาคุณ
และตัวคุณเองก็อาจจะเป็นคนที่ไม่ใช่ในสายตาใคร...เหมือนกัน
คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด สุดท้ายแล้วเป็นเราเองที่เรามีความสุข
เราฟุ้งซ่านเราหงุดหงิดเราไม่สบายใจในการกระทำของเขา
แต่ถ้าหากเราอยากอยู่อย่างสบายใจ
มีชีวิตเป็นของตัวเองมีความสุขในการใช้ชีวิต
สิ่งที่ดีที่สุดคือ การไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
ไม่ไปนั่งจับผิด ไม่เป็นนั่งอิจฉาริษยาใคร
เราต้องเรียนรู้ที่จะฝึกใจด้วยตัวเองด้วยการที่ไม่ใส่ใจคนอื่นจนมากเกินไป
จะทำให้เรามีความสุขในทุกทุกวัน
ลองท่องไว้… ไม่โกรธ...
เตรียมใจคน 5 ประเภท อีก3ปี จะไม่มีงานทำ ตกงาน ไม่มีเงิน
เตรียมใจคน 5 ประเภท อีก3ปี จะไม่มีงานทำ ตกงาน ไม่มีเงิน
ทางด้านอาจารย์ Li Kaifu ได้เคยกล่าวเคยพูดไว้ว่า อีก 10 ปีข้างหน้านั้น งาน 50% ของมนุษย์ทุกคน จะถูกแทนที่ด้วย AI หรือจะพูดกันตรงๆนั่นก็คือ อีก 10 ปีข้างหน้า มนุษย์ทุกคนจะตกงาน และแน่นอนว่าจะตกงานมากกว่า...
อยาก ” ใจเย็น” ลง ลองฝึกตาม 5 ข้อ แล้วคุณจะกลายเป็นคนใหม่
อยาก ” ใจเย็น” ลง ลองฝึกตาม 5 ข้อ แล้วคุณจะกลายเป็นคนใหม่
1. ตื่นอย่างมีสติ
ก่อนที่เราจะลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ในตอนเช้า สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ ให้เวลากับตัวเองสัก 5 นาที นั่งนิ่งๆสมาธิตอนเช้า เพื่อที่จะเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ไปอย่างมั่นคง
2. กินอย่างมีสติ
บางครั้งเราก็ทานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย บางครั้งก็ทานไปด้วยดูจอทีวี จอมือถือไปด้วย แล้วครั้งสุดท้ายที่ทานอาหารทีละคำ รับรสชาติ แล้วขอบคุณอาหารในมื้อนั้น คือเมื่อไหร่กันหรือ ?
3. เดินอย่างมีสติ
เดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง...
เผยคำพูดสุดท้ายจากสตีฟ จ็อบส์ สละเวลาอ่าน 30 วิ เรื่องน่าคิดชีวิตคนทำงาน!
เผยคำพูดสุดท้ายจากสตีฟ จ็อบส์ สละเวลาอ่าน 30 วิ เรื่องน่าคิดชีวิตคนทำงาน!
ผมเองนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเรื่องของธุรกิจ หรืออาจกล่าวเลยได้ว่าชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดในเรื่องของการประสบความสำเร็จ แต่นอกเหนือจากการทำงานแล้วผมไม่ได้มีความสุขเลย เพราะในที่สุดความร่ำรวยแล้วกลายเป็นสิ่งเดียวที่ผมมี แต่ในขณะที่ผมกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงนี้ ผมพยายามรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ผมพบว่าความร่ำรวยความภาคภูมิใจไม่ได้มีค่าอะไรในช่วงสุดท้ายของชีวิตของผม..
ในความมืด ผมมองเห็นเพียงแสงสีเขียวและเสียงของเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าความตายใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนี้ผมเพิ่งตระหนักว่า เมื่อเราร่ำรวยพอแล้ว เราควรหันไปใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ บ้าง ซึ่งอาจเป็นสิ่งอื่นๆที่สำคัญ เช่น งานศิลป ที่เราเคยใฝ่ฝันในตอนเด็กๆ การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ำรวย จะทำให้ต้องมีชีวิตเหมือนที่ผมเป็น
พระเจ้าได้มอบความรักไว้ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน...
เมื่อ “2 สามี- ภรรยา” กำลังจะหย่า จู่ๆ “คนขับแท็กซี่” ขับรถพาไปยัง บ้านร้างเก่าๆ
เมื่อ “2 สามี- ภรรยา” กำลังจะหย่า จู่ๆ “คนขับแท็กซี่” ขับรถพาไปยัง บ้านร้างเก่าๆ
ในบทความนี้เราอยากจะให้คนที่มีคู่ได้อ่านกัน หากว่าคุณกำลังเจอกับปัญหาบ่อยครั้ง จนคิดอยากจะเลิกรากันไป ไม่อยากที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว เหมือนอย่างคู่สามีภรรยาคู่นี้ ก็อ่านกันดูคุณอาจจะเป็นความคิดไปเลยก็ได้ เมื่อเราเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวของคนรักเรา ถ้าเห็นชอบเรื่องนี้แนะนำว่าให้แชร์ไปให้กับผู้อื่นที่กำลังคิดแบบคุณ เผื่อว่าจะช่วยเขาได้
เรื่องราวที่เรากำลังจะหยิบยกมาในวันนี้ เป็นเรื่องราวของ “นายสม” มีอาชีพเป็นพนักงานขับแท็กซี่ ที่ได้เล่าเรื่องราวให้เราฟังว่า ในวันหนึ่งนั้นเขากำลังรับผู้โดยสาร 2 สามีภรรยา...
ผมโดนบอกเลิก เพราะผมดูไม่มีอนาคต พอได้รู้ความจริงถึงกับไปไม่เป็น
ผมโดนบอกเลิก เพราะผมดูไม่มีอนาคต พอได้รู้ความจริงถึงกับไปไม่เป็น
ตัวผมเองนั้นเป็นคนต่างจังหวัด และเนื่องจากฐานะทางบ้านของผมไม่ค่อยดีนะ ผมจึงเรียนจบได้แค่มัธยมปลายเพียงเท่านั้น หลังจากที่ผมได้เรียนจบมัธยมปลาย ผมก็จะต้องออกไปหางานทำอย่างหนัก และผมมักจะทำงานล่วงเวลาจนดึกจนดื่นอยู่เสมอ ผมทำงานค่อนข้างจะใช้แรงงาน ผมเหนื่อย เลยไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับผู้หญิงสักเท่าไหร่
แฟนของผมคนแรกนั้นเรารู้จักกันโดยบังเอิญ โดยมีเพื่อนแนะนำให้รู้จัก เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดที่ผมอาศัยอยู่ ตอนที่เรารู้จักกันนั้นเรียกได้ว่าเป็นบุพเพสันนิวาสเลยก็ว่าได้ เราทั้งสองคนต่างมีบางสิ่งบางอย่างดึงดูดซึ่งกันและกัน และทำให้เราสองคนนั้นคบกันจนถึงทุกวันนี้
ในสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย เธอเป็นผู้หญิงที่ดีและห่วงความรู้สึกของผมมาก แม้กระทั่งในตอนออกมาทานข้าวด้วยกันเธอยังไม่ค่อยออกมาเจอผมเลย เพราะถ้าหากเจอผมก็จะเป็นคนเลี้ยงเธอตลอด ไม่ต้องการจะให้ผมใช้เงินเยอะ
ผ่านไปไม่นานผมก็เริ่มมีความรู้สึกดีดีกับเธอ ผมเริ่มรักเธอมากขึ้น หลังเรียนจบเธอก็ได้ออกไปหางานทำ แล้วนิสัยของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ในวันนั้น การทำงานของเธอในแต่ละงานมักจะมีปัญหาเสมอ...
ชายชรารับเลี้ยง “ขอทาน” แต่โดนขโมยเงินไปหมด สุดท้ายมีรถหรูมาจอดหน้าบ้าน
ชายชรารับเลี้ยง "ขอทาน" แต่โดนขโมยเงินไปหมด สุดท้ายมีรถหรูมาจอดหน้าบ้าน
มีเรื่องราวของลุงคนหนึ่ง ที่ได้มาพบกับขอทานข้างถนน และเรื่องราวนั้นก็ดำเนินมาเรื่อย จากคนแปลกหน้าที่ไม่เคยข้องเกี่ยวกันมาก่อน ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของคุณลุงโจไปตลอดกาล
ในที่ชุมชนมักจะมีคนที่คอยนั่งจับกลุ่มคุยกันตามร้านน้ำชา ที่หมู่บ้านนี้ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากนายโจไม่ได้หล่อเขาอายุได้ 50 ปี ก็ยังไม่มีภรรยาเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านขนาดเล็ก บ้านของเขามีพื้นที่เพียงแค่ 20 ตารางวา เป็นที่ที่พ่อแม่ของเขาเหลือไว้ให้
ในแต่ละวันนั้นเขามักจะตระเวนไปตามตรอกซอกซอยเพื่อที่จะรับจ้างลับมีด แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่นิสัยของเขานี่แหละ ที่มักจะชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านใหม่ๆ
มีวันหนึ่ง
สามีภรรยาคู่หนึ่งได้ทะเลาะกัน มีเสียงดังไปครึ่งซอย บ้านละแวกนั้นก็ออกมายืนมุงดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม โจทนดูต่อไปไม่ไหว...