ช่วยคนอื่น จนตัวเองไม่ไหวก็ควรหยุด แล้วหันมาใส่ใจตัวเองดีกว่า

0

ช่วยคนอื่น จนตัวเองไม่ไหวก็ควรหยุด แล้วหันมาใส่ใจตัวเองดีกว่า

คนเราทุกคนนั้นควรเรียนรู้ในการใช้ชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกับคนรอบข้างให้มีความสุข ดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น แน่นอนว่าคนเราทุกคนไม่สามารถที่จะอยู่คนเดียวได้ จำเป็นที่จะมีคนรอบข้างจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้การใช้ชีวิต

การเลือกเป็นคนใจดีมากจนเกินไป หมายถึงเลือกที่จะช่วย เหลือผู้อื่นในทุกๆเรื่อง จนสิ่งที่ทำกับมาทำร้ า ยตัวเราเอง นั่นก็จะทำให้ตัวเราเดือดร้อน มานั่งเสียใจทีหลัง สำหรับใครที่เป็นคนใจดีมากๆ ลองอ่านกันเลย เพราะมันจะเตือนใจให้คุณได้คิด

1 ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป ให้ตัดสินใจให้ดีก่อน เมื่อตกที่นั่งลำบากความใจดีของตัวเองอาจจะย้อนกลับมาทำร้ า ยตัวเองและคนใกล้ชิดได้ เหมือนกับต้องเหนื่อยกับปัญหาที่ไม่ได้เป็นปัญหาของตัวเองเลย

2 ในบางครั้งความใจดีที่จะต้องคอยมาเหนื่อยกับปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหาของตัวเอง ไม่ได้มีส่วนได้เสีย มันไม่ใช่แค่เหนื่อยกาย แต่มันทำให้เหนื่อยใจด้วย

3 ความใจดีส่งผลต่อในอนาคต เพราะเลือกช่วย เหลือคนอื่นจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว ซึ่งถ้าวันไหนไม่ได้ช่วยหรือช่วยได้อย่างไม่ดีพอ ก็จะรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง กลัวความรู้สึกของคนอื่นจะเสียหาย แต่ไม่ได้ดูแลตัวเองเลย เก็บเอาการกระทำของคนอื่นมานั่งคิดต่างๆนานา

4 เมื่อเป็นคนใจดี ก็จะกลายเป็นคนแคร์ผู้อื่นอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่ามากกว่าตัวเอง ทีนี้ไม่ว่าคนอื่นคิดจะพูดอะไรทำอะไรก็มักจะเก็บเอามาคิด มาใส่ใจอยู่ตลอดเวลา ในบางทีก็ลืมนึกถึงเรื่องตัวเองไป

5 ในหลายๆครั้ง ความใจดีก็ทำให้เกิดความอึดอัด น้ำท่วมปาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะไม่สามารถที่จะปฏิเสธใครได้เลย

6 ตราบใดที่ตัวเรานั้นยังไม่ปฏิเสธใครหรือปฏิเสธไม่เป็น ก็จะเป็นคนใจดี แต่เมื่อไหร่ที่เผลอปฏิเสธไปครั้งห นึ่ ง ภาพลักษณ์ที่สะสมมาก็จะหายไปเลยภายใน 10 วินาที ขนาดไม่ได้ตั้งใจปฏิเสธก็ยังโดนมองไม่ดีเลย

การเป็นคนใจดีแน่นอนว่าก็เป็นข้อดี แต่ก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะหากเราเป็นคนใจดีจนมากเกินไปจนลืมที่จะดูแลตัวเอง ใส่ใจตัวเอง นั่นก็จะส่งผลไม่ดีต่อตัวเราเองเช่นกัน

เขียน / เรียบเรียง : postsod

Facebook Comments

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here